“คิมบับไส้ทะลัก” จากจุดเริ่มเล็ก ๆ สร้างยอดขายสุดปัง

20 พ.ค. 2566 00:00

เริ่มต้นจากครัวเล็ก ๆ บนคอนโด ทำกินเองบ้าง ทำกินกับเพื่อน ๆ บ้าง จากนั้นจึงลองเปิดพรีออเดอร์ แม้ช่วงแรก ๆ จะมีอุปสรรคปัญหาค่อนข้างมาก แต่เพราะความกล้าคิดกล้าลงมือทำ กล้าชนกับปัญหา ทำให้ตอนนี้ “คิมบับไส้ทะลัก” เปิดขายมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว และยอดขายต่อวันก็ปังมากด้วย!

เอิง-สุชาดา ช่วยเอียด เจ้าของแบรนด์ “คิมบับไส้ทะลัก” จะมาพูดคุยและเผยถึงกลยุทธ์เคล็ดลับการทำธุรกิจกันค่ะ

เอิง-สุชาดา ช่วยเอียด เจ้าของแบรนด์ “คิมบับไส้ทะลัก”

คลุกคลีอยู่ในวงการเกาหลีมามากกว่า 10 ปี

สู่เจ้าของแบรนด์ "คิมบับไส้ทะลัก”

ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้คุณเอิงเป็นสายเกาหลีตัวจริงเสียงจริงเพราะคลุกคลีอยู่กับวงการเกาหลีมามากกว่า 10 ปีเนื่องจากเรียนจบเอกภาษาเกาหลีมาพอเรียนจบก็ได้ทำงานเกี่ยวกับภาษาเกาหลีบริษัทเกาหลีมาโดยตลอดอีกทั้งยังชื่นชอบดูละครเกาหลีดูซีรีส์เกาหลีเรียกได้ว่าชีวิตเกือบ 80% เกี่ยวข้องกับเกาหลีทั้งหมด

ส่วนเหตุผลที่เลือกขายอาหารเกาหลีนั้นคุณเอิงเล่าว่าเป็นเพราะความคุ้นเคยที่อยู่ในสายเกาหลีมาก่อนจึงทำให้สนใจพวกอาหารเกาหลีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซึ่งช่วงโควิดมีเวลาว่างค่อนข้างมากจึงลองทำคิมบับขายและเปิดพรีออเดอร์ดู

“คิมบับไส้ทะลัก เริ่มต้นขึ้นจากช่วงโควิดตอนนั้นเอิงว่างๆเลยอยากลองหาอะไรขายเล่นในคอนโดที่จริงก็มีขายอย่างอื่นเล่นๆมาบ้างแต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักอาจเพราะด้วยว่าเราไม่ได้มีเวลาทำเต็มที่ด้วยแต่พอได้มาขายคิมบับเป็นช่วงโควิดพอดีก็เลยทำให้มีเวลาค่อนข้างมากและโฟกัสได้เป็นพิเศษ

“ส่วนเหตุผลที่ขายคิมบับเพราะช่วงนั้นได้ชวนเพื่อนๆมาทำอาหารเกาหลีกินกันบวกกับได้เห็นว่าคิมบับมีขายมากขึ้นเราก็เลยลองทำบ้างเริ่มจากลองทำกินเองและทำกินกับเพื่อนๆก่อนค่ะหลังจากนั้นก็ถ่ายรูปและลองโพสต์เปิดรับพรีออเดอร์และขายเฉพาะในคอนโดก่อนจนตอนนี้ “คิมบับไส้ทะลัก” เปิดมาน่าจะเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ”

กว่าจะมาเป็นแบรนด์ “คิมบับไส้ทะลัก”

เส้นทางไม่ได้สวยหรู

“ช่วงแรก ๆ ที่เริ่มขายคุณเอิงได้โพสต์ขายในไลน์ของคอนโดมาก่อนแต่ก็ถือว่าล้มเหลวเพราะเท่าที่จำได้น่าจะไม่มีคนสั่งเลยด้วยซ้ำพอขยับมาขายเดลิเวอรี่ช่วงแรกก็มีปัญหาเยอะมากเช่นกันเรียกว่าทำไปแก้ปัญหาไปเลยทีเดียว

“ช่วงแรกเรามีปัญหาทั้งการซื้อวัตถุดิบเวลาในการทำที่เราใช้เวลาค่อนข้างมากบางครั้งทำแทบทั้งคืนไม่ได้นอนรวมถึงการขนส่งที่ถือว่าเป็นปัญหาที่เครียดมากที่สุดเพราะเราเป็นอาหารที่ทำขึ้นมาใหม่ต้องทำและส่งให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วแต่ด้วยการจัดส่งที่ค่อนข้างแพงเลยต้องหาวิธีส่งให้ลูกค้าได้เร็วที่สุดในราคาที่ไม่แพงมากนักและเราเองก็ไม่ต้องแบกรับต้นทุนการจัดส่งซึ่งกว่าจะลงตัวถือว่ายากและใช้เวลาค่อนข้างเยอะเลยค่ะเพราะทุกอย่างเราเซตจัดสรรหาวิธีการต่างๆคนเดียวเลยวันนี้ก็ไม่คิดว่าจะเดินมาไกลได้ขนาดนี้เพราะตอนแรกเราคิดแค่ว่าจะทำขายเป็นอาชีพเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ เองค่ะ”

คิมบับคืออะไร?

หลายคนคงยังสงสัยเพราะบางคนอาจจะคิดว่าคล้ายๆกับซูชิซึ่งคุณเอิงก็ได้ให้คำตอบว่าคิมบับไม่ใช่ซูชิ แต่จริง ๆ แล้วคิมบับก็คือข้าวห่อสาหร่ายสไตล์เกาหลีโดยจะมีการห่อโดยใส่วัตถุดิบที่เป็นไส้ต่างๆเข้าไปข้างในหั่นออกมาเป็นชิ้น ๆ และรับประทานได้เลยโดยไม่ต้องมีน้ำจิ้มใดๆนั่นเอง

“สำหรับคอซี่รีส์เกาหลีจะรู้จักคิมบับเป็นอย่างดีเลยซึ่งการขายให้กับคนที่รู้จักอยู่แล้วจะง่ายมาก ๆ ค่ะ คนที่ชอบเขาก็จะอุดหนุนและกลายมาเป็นลูกค้าประจำของเรา แต่ก็ยังมีอีกหลายๆกลุ่มที่ไม่รู้จักคิมบับเลยก็มีเยอะเช่นกันค่ะซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ที่เราเองอยากจะเจาะเข้าไปให้เขารู้จักและเปิดใจรับคิมบับมากขึ้นตอนนี้ถือว่าเราทำได้ระดับหนึ่งที่ให้คนทั่วไปที่ไม่เคยรู้จักคิมบับไม่เคยสนใจซีรีส์มาเปิดใจลองรับประทานและชอบของเราค่ะ”

จุดเด่นที่ทำให้ “คิมบับไส้ทะลัก” ยอดขายปัง!

“จุดเด่นหรือจุดขายของแบรนด์ “คิมบับไส้ทะลัก” ก็คือไส้แน่นข้าวน้อยและวัตถุดิบพรีเมียมค่ะเรามองว่าความแตกต่างของเราคือการขายในราคาที่จับต้องได้แต่เต็มไปด้วยคุณภาพและวัตถุดิบที่เราคัดสรรว่าพรีเมียมไม่ทำให้คุณภาพและรสชาติของคิมบับเปลี่ยนไป”

“ตอนนี้ทางร้านมีเมนูคิมบับทั้งหมด 7 ไส้ด้วยกันค่ะได้แก่ออริจินอล 99 บาท, ทูน่ามายองเนส 99 บาท, สามชั้นย่างซอสซัมจัง 119 บาท, มาม่าไก่เผ็ดชีส 119 บาท, พุลโกกิหมู 119 บาท, พุลโกกิฟิวชั่น 119 บาท, อูยองอูคิมบับ 119 บาท”

“สำหรับเมนูซิกเนเจอร์จะเป็นมาม่าไก่เผ็ดชีสค่ะเป็นเมนูที่ลูกค้าประจำจะสั่งเข้ามาเยอะมาก ๆ เป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเองเลยค่ะ”

“ปัจจุบันเรามีขายแบบพรีออเดอร์ Popup shop และผ่านแอปเดลิเวอรี่ยอดขายจริง ๆ จะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน อยู่ที่ 15,000-20,000 บาทต่อวันโดยประมาณค่ะ”

หัวใจในการทำธุรกิจคือไม่เน้นผลกำไร

คุณเอิงตอบด้วยรอยยิ้มว่า “คิมบับไส้ทะลัก” เป็นเพียงร้านเล็กๆที่ทำกันเองในครอบครัวมีเพื่อนๆรุ่นน้องมาช่วยจึงไม่ได้มีเคล็ดลับหรือกลยุทธ์หรือทีมงานอะไรมากมายทุกอย่างเป็นการวางแผนและจัดการเองทั้งหมดเลยแต่สิ่งหนึ่งที่ยึดมั่นเสมอคือการมอบอาหารที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและบริการที่เป็นมิตรทำให้มีลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่ๆเข้ามาหาเธอเสมอนั่นเอง

“หัวใจในการทำธุรกิจของเราก็คือการแบ่งปันเราเป็นร้านที่ไม่ได้ทำธุรกิจโดยเน้นผลกำไรจนไปสร้างความลำบากให้ผู้บริโภคหรือสร้างความลำบากใจให้กับคนที่ร่วมงานกันจึงมองว่าการแบ่งปันการสร้างงานการสร้างโอกาสให้คนอื่นๆรวมถึงตัวเราเองเป็นสิ่งที่ยึดมั่นในการทำธุรกิจค่ะ”

โดยเป้าหมายในอนาคตอันใกล้นี้คุณเอิงมีแพลนจะเปิดไลน์อาหารเกาหลีเพิ่มขึ้นเจาะในเมนูอื่นๆรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองเพื่อเซตระบบให้ลงตัวก่อนส่วนเป้าหมายในระยะไกลคือการเปิดหน้าร้านเล็กๆเป็นเหมือนพื้นที่เล็กๆให้ลูกค้าประจำได้มารับประทานคิมบับที่ทำขึ้นสดใหม่ที่หน้าร้าน

ท้ายนี้คุณเอิงให้คำแนะนำสำหรับคนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองไว้ว่าอยากเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่างให้ลองทำดูอย่าไปกลัวความล้มเหลว

“การที่จะเริ่มทำอะไรสักอย่างอยากให้ลองทำดูอย่ากลัวว่าจะล้มเหลวความล้มเหลวคือประสบการณ์ที่จะสั่งสมให้เรามีความคิดความกล้าในการจะริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ บางครั้งบางอย่างอาจจะต้องรอจังหวะและเวลาที่เป็นของเราแต่เชื่อว่าถ้าเราได้ลงมือทำความสำเร็จจะมาหาทุกคนเองค่ะ”

ใครอยากลิ้มลอง “คิมบับไส้ทะลัก” สำหรับเดือนพฤษภาคมมีเปิด Popup Shop ที่เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น G ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤษภาคม 2566 และสีลมคอมแพล็กซ์ชั้น G ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม –3 มิถุนายน 2566