MENU

7 ประโยชน์ของชีส และโทษที่จะได้รับ ถ้ากินมากเกินไป

 12 ก.ค. 2566 00:00

หลายคนคงชอบรับประทานชีสเป็นชีวิตจิตใจ ก็แหม! มันอร่อยนี่เนอะ แถมยังนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด โดยชีสก็มีหลายประเภทให้เลือกสรร อาทิ คอทเทจชีส มอสซาเรลล่าชีส เชดดาร์ชีส พาร์มีซานชีส บลูชีส ฯลฯ แต่ทว่าเจ้าชีสแสนอร่อยนี้ก็มีทั้งประโยชน์และโทษ วันนี้ Okay Today จึงนำประโยชน์ โทษของชีสมาฝากกันค่ะ

ชีส มีคุณค่าทางโภชนาการที่ประกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี แมกนีเซียม วิตามินเอ วิตามินบี12 วิตามินดี วิตามินเค ฯลฯ เป็นต้น


ประโยชน์ของชีสมีอะไรบ้าง?


1. บำรุงกระดูกให้แข็งแรง


ชีสถือเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งมีแคลเซียมมากกว่านมถึง 2 เท่า อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีน และวิตามินดี โดยแคลเซียมนั้นมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง แถมยังส่งผลดีต่อมวลกระดูก และมีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน ได้ โดยเฉพาะเชดด้าชีสที่มีแคลเซียมสูงปรี๊ด เพราะ100 กรัม มีแคลเซียมประมาณ 710 มิลลิกรัมเลยทีเดียว


2. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ


ชีสมีโปรตีนสูง โดยมีโปรตีนที่มีมากกว่านมถึง2 เท่า จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเคซีนในร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ชีสมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณสูง เป็นแหล่งที่มาของโปรตีนที่ดีซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงดูแลเซลล์กล้ามเนื้อที่สึกหรอ


3. ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น ช่วยปกป้องริ้วรอย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นผมและเล็บ เป็นต้น


4. ช่วยลดน้ำหนักได้


รู้หรือไม่ว่า ชีสสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยชีสมีโปรตีนสูงจึงช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อยู่ท้องนานขึ้น และไม่รู้สึกหิวบ่อย


5. ป้องกันฟันผุ


มีงานวิจัยพบว่า โพรไบโอติกที่อยู่ในชีส อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดได้ โดยในการทดลองพบว่าเมื่อรับประทานชีสปริมาณ75 กรัมต่อวัน ปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และยีสต์ที่เป็นสาเหตุของปัญหาช่องปากมีปริมาณลดลง

6. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน


มีงานวิจัยพบว่า การรับประทานชีสอาจส่งผลให้ร่างกายได้รับกรดไขมันทรานส์ปลามิโทเลอิก (Trans–palmitoleic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์นม ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ได้ นอกจากนี้ ชีสยังอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ระดับอินซูลิน ลดความเสี่ยงการอักเสบต่าง ๆ และเพิ่มความไวต่ออินซูลินได้


7. ช่วยบำรุงลำไส้


ชีสอุดมไปด้วยโพรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีแต่อสุขภาพลำไส้ การรับประทานชีสจึงอาจช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ได้


โทษของชีส


ชีสมีโซเดียมสูง ซึ่งเชดดาร์ ชีส1 แผ่นจะมีโซเดียมอยู่ที่ โซเดียม190-320 มิลลิกรัม อีกทั้งชีสยังมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง หากรับประทานมากไปอาจทำให้เกิดคอเลสเตอรอลในเลือดสูงซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ที่สำคัญรับประทานเยอะยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย


คำแนะนำในการรับประทานชีส


- ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่เกิน 2 แผ่นต่อวัน


- ควรเลือกชีสแบบไขมันต่ำ


- ควรรับประทานชีสคู่กับโปรตีน หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนหลากหลาย


- ผู้ที่มีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง ผู้ที่แพ้นม ผู้ที่แพ้โปรตีนเคซีน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชีส


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก เว็บไซต์พบแพทย์ (https://shorturl.asia/6t1Dx)