MENU

‘ยูโอบี’ จับมือ Alibaba.com เสริมศักยภาพเอสเอ็มอีไทย ขยายธุรกิจ B2B บนอีคอมเมิร์ซ

 20 มี.ค. 2567 00:00

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จับมือกับ Alibaba.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ B2B ของอาลีบาบา หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขยายธุรกิจ พร้อมนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีขยายโอกาสสู่ตลาดต่างประเทศบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า จากรายงานคาดการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซ B2B ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาที่ธนาคารได้นำเสนอบริการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เราเล็งเห็นว่าอีคอมเมิร์ซได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ประกอบการในการทำตลาดต่างประเทศ


ธนาคารยังตระหนักดีว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปบนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการผนึกความเชี่ยวชาญทางการเงินของธนาคารเข้ากับข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของ Alibaba.com เพื่อสนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอีเชื่อมต่อกับโอกาสใหม่และขยายธุรกิจไปต่างประเทศบนดิจิทัลแพลตฟอร์มระดับโลก”


นายวาเรน หวัง Head of Thailand Business, Alibaba.comกล่าวว่า ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการให้บริการธุรกิจในการซื้อขายสินค้าทั่วโลกAlibaba.comคือแพลตฟอร์ม B2B (Business-to-Business) ชั้นนำเพื่อการค้าระดับโลก รายงานการศึกษาของเราพบว่าร้อยละ 42 ของผู้ขายสินค้าใช้แพลตฟอร์มของเราเป็นช่องทางหลักในการคัดสรรสินค้า ในขณะที่ร้อยละ 60 ใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางสำหรับขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ ดังนั้นเราในฐานะแพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายแบบครบวงจรพร้อมจะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในการขยายธุรกิจไปต่างแดน และเราหวังที่จะได้ร่วมงานกับยูโอบีอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อจัดงานสัมมนาที่เป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีในอนาคต


เมื่อเร็วนี้ๆ ธนาคารยูโอบีได้ร่วมกับ Alibaba.com จัดงานสัมมนาให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง นำเข้าและส่งออก เพื่อนำเสนอ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B บนตลาดอีคอมเมิร์ซ ทิศทางและแนวโน้มของการนำเข้าและส่งออกสินค้า รวมไปถึงสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบันเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมและมีโอกาสในการขายได้มากขึ้น


โดยผลสำรวจของ Alibaba.com พบว่าประเทศผู้ซื้อที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน และ ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดการซื้อขายสูงสุงจากผู้ขายไทยได้แก่ กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าด้านการเกษตร กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าบ้านและสวน


นอกจากนี้ธนาคารได้นำเสนอโซลูชันทางการเงินและบริการธนาคารที่จะช่วยบริหารเงินสด และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเอสเอ็มอีที่สนใจจะขยายธุรกิจบนแพลต์ฟอร์มออนไลน์ระหว่างประเทศ อาทิเช่น UOB Biztrade+, UOB Trade Finance, UOB FX (Foreign Exchange), และ Trade Credit Insurance ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ธุรกิจและทำให้การขายสินค้าออนไลน์ไปสู่ตลาดต่างประเทศเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งธุรกิจเอสเอ็มอียังสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม UOB BizSmart ที่รวบรวมโซลูชันจัดการธุรกิจบนระบบดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อช่วยให้การบริหารธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ