MENU

QTCG ขายไอพีโอหุ้นละ 1.20 บาท ก่อนเข้าเทรดเอ็มเอไอ 4 เม.ย.นี้

 26 มี.ค. 2567 00:00

บมจ.คิวทีซีจี (QTCG) เสนอขายไอพีโอ 180 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.20 บาท เปิดจอง 27-29 มี.ค.นี้ ดีเดย์เข้าเทรด mai วันที่ 4 เม.ย.นี้ ชูจุดเด่นหุ้นสายงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารแบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ จ่อนำเงินใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ


บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ QTCG กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ที่ราคา 1.20 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 216 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อวันที่ 27-29 มี.ค.67 และจะเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.67


โดยมี บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ ส่วน บล.ทรีนีตี้ ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ โดยการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO กำหนดตามมูลค่าเชิงเปรียบเทียบกับมูลค่าของบริษัทเทียบเคียงที่จดทะเบียนในตลาด mai ที่สามารถอ้างอิงได้ (Market Comparable) โดยพิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัท (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) โดยราคาหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็น P/E เท่ากับ 38.69 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง 22.02 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นหลัง IPO (Fully Diluted) เท่ากับ 600 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.04 บาท หรือคิดเป็น P/E เท่ากับ 22.88 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นก่อนขายหุ้น IPO จำนวน 420.00 ล้านหุ้น (0.05 บาท) บริษัทจะนำเงินจำนวน 200.40 ล้านบาทมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจปกติภายในปี 67-68


นายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า เม็ดเงินที่ QTCG จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพ ความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินให้กับบริษัทฯ สู่การต่อยอดการลงทุนสำหรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ทำให้เชื่อว่าความสำเร็จภายใต้การระดมทุนของ QTCG จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ


"เชื่อว่าการเสนขายหุ้นครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก QTCG เป็นหนึ่งฟันเฟืองที่ต่อยอดความสำเร็จในการสร้างรากฐานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในการวางระบบวิศวกรรมภายในอาคาร ดังนั้นจึงมั่นใจว่า QTCG จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่มสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต" นายวีรพัฒน์ กล่าว


นายธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QTCG เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารอย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบและการสื่อสาร 2) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ 3) การให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบสุขาภิบาลและระบบประปา และ 4) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบป้องกันอัคคีภัยภายในอาคาร ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมยาวนานกว่า 23 ปี ทำให้บริษัทฯ มีทีมวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์และมีศักยภาพให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารให้กับโครงการคุณภาพมาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ


บริษัทมีกลุ่มลูกค้ากระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วย กลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม, กลุ่มอาคาร,กลุ่มโรงพยาบาล และ กลุ่มโรงแรม เป็นต้น โดยทุกโครงการที่ QTCG เข้าไปดำเนินการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารจะเป็นโครงการระดับพรีเมี่ยม เกรด อาทิ โครงการ Andaz Resort Pattaya,โครงการอาคารหอประชุมกองทัพบก,โรงแรมคาเพลลา,อาคาร จี แลนด์ พระราม 9,คอนโดมิเนียมKhun By Yoo ,อาคารพักอาศัยของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม,โครงการงานปรับปรุงพื้นที่ตึกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลศิริราช,โครงการอาคารโรงงาน ITC-3.2 (สมุทรสาคร) เป็นต้น


บริษัทเชื่อว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ฐานะทางการเงินของ QTCG มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สู่การขับเคลื่อนสำหรับการรองรับการเข้าประมูลโครงการใหญ่ในอนาคต ต่อยอดและขยายฐานงานเดิมที่มีอยู่ ณ วันที่ 25 ธ.ค.66 บริษัทมีมูลค่างานที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้ประมาณ 1,158 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานขนาดใหญ่ในกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียงต่อเนื่องจากโครงการเดิม อาทิ โครงการ CIB International school,โครงการ คอนโด ชูช์ ราชเทวี (SHUSH),โครงการก่อสร้างอาคารกระทรวงมหาดไทย,โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซนC,โครงการ วัน อมตะ,โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ตลาดยิ่งเจริญ,โครงการ KIS International school เป็นต้น


ขณะที่ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 67 จะมีการขยายตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.67 ส่งผลให้โครงการก่อสร้างต่างๆ ต้องเร่งเดินหน้าลงทุน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งผลักดันให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QTCG จะได้รับอานิสงส์จากแผนกระตุ้นการก่อสร้างจากปีงบประมาณดังกล่าวด้วย โดยจะทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด


ด้านนายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ และด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 23 ปี ทำให้ QTCG มีฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และได้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งงานระบบให้กับโครงการชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน มาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งจากทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์มืออาชีพ ทำให้บริษัทฯ สามารถรับงานในโครงการที่มีขนาดใหญ่iดับ 500 - 600 ล้านบาทต่อโครงการได้ จนทำให้บริษัทฯ มีเติบโตด้านรายได้จาก Backlog ในมือกว่า 1,158 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ


นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตราความสามารถในการทำกำไรสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 14% ในขณะที่คู่แข่งในอุตสาหกรรมมีค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ 4-9% รวมถึงยังมีทรัพย์สินที่ซ่อนอยู่ (Hidden asset) ในบริษัทซึ่งยังไม่ได้สะท้อนในงบการเงิน ได้แก่ ทรัพย์สินรอการขาย ซึ่งมีราคาทุน 63.70 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 115.88 ล้านบาท และใบอนุญาตประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์ซึ่งยังไม่ได้ถูกประเมินมูลค่า โดยบริษัทได้ชะลอการดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ช่วงปลายปี 65 เพื่อมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจหลักนั่นคือธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าหลังเข้าระดมทุน 1 ปี จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ต่อหรือไม่


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 64-66 มีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 625.48 ล้านบาท 905.50 ล้านบาท และจำนวน 751.72 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 23.43 ล้านบาท 101.76 ล้านบาท 22.03 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเครดิต ที่ดีกับสถาบันการเงิน ทำให้มีโอกาสในการได้รับการเสนอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความมั่นคงของบริษัทฯ ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น QTCG เป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในอนาคต