MENU

ธอส.โชว์ 4 เดือนแรกปล่อยสินเชื่อใหม่เฉียด 4.8 หมื่นล้าน เอ็นพีแอล 5.63%

 21 พ.ค. 2567 00:00

ธอส. เผยผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรกปี 67 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 37,282 บัญชี วงเงินรวม 47,784 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,716,015 ล้านบาท หนี้เอ็นพีแอล 5.63% มั่นใจทั้งปีปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมาย 242,544 ล้านบาท


นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่จำนวน 37,282 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 47,784 ล้านบาท หรือ 20% ของเป้าหมายในปี 2567 ที่ตั้งไว้ 242,544 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางถึง 24,476 ราย


โดยมีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,716,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบ ณ สิ้นปี 2566 สินทรัพย์รวม 1,808,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26% เงินฝากรวม 1,557,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 5.63% ของยอดสินเชื่อรวม


ทั้งนี้ ธอส. มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 153,182 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 158.55% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.30% สูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.5%


ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ในการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% รวมถึงการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร ทำให้ลูกค้าตัดสินใจยื่นขอสินเชื่อมากขึ้น ดังนั้น จึงคาดว่าสิ้นปี 2567 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมาย 242,544 ล้านบาท” นายกมลภพ กล่าว


สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. มียอดนิติกรรมสูงถึง 9,523 ล้านบาท 2.สินเชื่อบ้าน Happy Life มียอดนิติกรรมสูงถึง7,607 ล้านบาท และ 3.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2567 มียอดนิติกรรมสูงถึง 4,101 ล้านบาท


ขณะเดียวกันธนาคารได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนคนไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ขาดโอกาสในด้านต่างๆ ให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ด้วยการจัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่5 ปีแรก เท่ากับ 3.00% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ารับรหัสเข้าร่วมโครงการ ผ่านMobile Application :GHB ALL GEN แล้ว 11,923 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 21,461 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 4,741 ล้านบาท, สินเชื่อบ้าน Happy Life สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่1 คงที่เท่ากับ1.95% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย3 ปีแรกเท่ากับ2.98%)โดยธนาคารได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว 10,250 ล้านบาท

สินเชื่อบ้าน Mild Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคามากกว่า3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.90%) มีลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 710 ล้านบาท


โครงการสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี2567 สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย3 ปีแรกเท่ากับ3.42%)และโครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2567 สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.30%)


ขณะเดียวกัน ธอส. ยังให้ความสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM)และลูกค้าสถานะ NPL ให้ยังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ปี2567 ประกอบด้วย มาตรการHD1 :สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะSM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่1-3 จำนวน1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี มาตรการ HD2 :สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะSM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่1 -3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท และ มาตรการHD3 สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะNPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่1 –4 จำนวน1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้ว จำนวน 25,798 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 29,966 ล้านบาท


สำหรับในปี 2567 ธอส. ได้ขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรของธนาคาร เพื่อร่วมกันสร้างระบบ Ecosystem ตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร ในปี2567 ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการ Resale Home Ecosystem :การร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายฐานสินเชื่อ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าบ้านมือสอง, โครงการGreen Loan ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในการขยายฐานสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


อีกทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อาทิ โครงการสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย และโครงการสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์กรมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน