MENU

"มากุโระ กรุ๊ป" เปิด Sukiyaki Chef's Table เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม คาดรายได้ปีนี้โต 30%

 11 ก.ค. 2567 00:00

บมจ.มากุโระ กรุ๊ป (MAGURO) แตกไลน์ร้านสุกียากี้ภายใต้แบรนด์ “HITORI SUKIYAKI” ชูกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ด้วยการมอบประสบการณ์สุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิม ผ่านคอร์สอาหารในสไตล์ Chef's Table ด้าน ซีอีโอ ‘เอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง’ เผยพร้อมขยายธุรกิจต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 30%


นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ต่อยอดความสำเร็จจากแบรนด์ “HITORI SHABU” ด้วยการเปิดตัวร้านสุกียากี้ “HITORI SUKIYAKI” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Chef’s Table SUKIYAKI เพื่อเอาใจ Sukiyaki Lovers ด้วยคอร์สสุกียากี้โดยเฉพาะ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์สุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมแบบไม่มีที่ไหนมาก่อน ซึ่งผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจาก Master Chef ผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้บรรยากาศเรียบง่ายเหมือนมีเชฟมาปรุงอาหารให้ที่บ้าน”


โดยรูปแบบการให้บริการของ HITORI SUKIYAKI จะเป็นการรับประทานในรูปแบบคอร์ส ที่ทาง Master Chef จะรังสรรค์อย่างพิถีพิถันทีละจาน เริ่มตั้งแต่ เมนูappetizer ที่หลากหลาย เพื่อเปิดต่อมรับรส ตามด้วยเนื้อส่วนต่างๆ สลับกับผัก ในแบบฉบับการรับประทานสุกี้ของคนญี่ปุ่นต้นตำรับ และจบด้วยเมนูของหวานรสชาติสดชื่นอย่างไอศกรีม Sorbet ด้วยการปรุงอาหารทุกคำโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ (Chef’s Table)


“จากฐานข้อมูลลูกค้าของ MAGURO ร้านอาหารประเภทสุกียากี้คิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของลูกค้าทั้งหมด จึงมีแนวคิดที่จะต่อยอดมาเป็นสุกี้แบบ Chef's Table เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งมีกำลังซื้อสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยลูกค้าจะได้เข้าถึงความพรีเมียมภายใต้แนวคิด ‘Give More Culture’ หรือ ‘การให้มากกว่าที่ขอ’ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า คุ้มราคา และประทับใจกับการเลือกใช้บริการร้านอาหารของเราอยู่เสมอ หลังจากนี้เราก็ยังคงจะเดินหน้าขยายธุรกิจต่อไปอีกเรื่อย ๆ ตามแผนที่ตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 11 สาขาในปี 2567 เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามที่คาดไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 30% จากปี 2566”

ทั้งนี้ “HITORI SUKIYAKI” ให้บริการในรูปแบบคอร์สสุกียากี้สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ด้วยการปรุงอาหารทุกคำโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ (Chef’s Table) ที่จะมารังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม ทั้งเนื้อวากิว A5 เนื้อพรีเมียมวากิวที่ไม่ได้ผ่านการแช่แข็ง หรือจะเป็นสายหมู ด้วยเมนูเนื้อหมูIberico เกรดพรีเมียมนำเข้าจากสเปน มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่แพ้เนื้อวากิว และไฮไลต์สำคัญคือข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ จะเปิดให้บริการครั้งแรกในรูปแบบ Stand Alone ที่ เอกมัย 12 เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ในเวลา 11.00-23.00 น. โดยมีที่นั่งให้บริการทั้งหมด 27 ที่นั่ง แบ่งเป็น โซนเคาน์เตอร์ 17 ที่นั่ง และห้องที่มีเชฟบริการส่วนตัว 2 โต๊ะ 6 ที่นั่ง และ 4 ที่นั่ง


ปัจจุบันร้านอาหารในเครือของมากุโระ กรุ๊ป ดำเนินกิจการร้านอาหารรวมทั้งหมด 29 สาขา คือ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น 15 สาขา SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีวัตถุดิบพรีเมียม รสชาติถูกปากคนไทย 6 สาขา และ HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 7 สาขา และแบรนด์ใหม่ล่าสุด HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมในรูปแบบ Chef’s Table 1 สาขา โดยภายในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนตั้งเป้าจะขยายสาขาร้านอาหารในเครือเพิ่มรวมถึงแผนการเปิดแบรนด์ใหม่รวมกันกว่าอีก 11 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของฐานลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต