ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งต่อหลักการและร่างประกาศการใช้ outsource และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการ ICO portal เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับลักษณะการดำเนินธุรกิจ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ตามที่ ก.ล.ต. ได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไปต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์การมอบหมายงานให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับดำเนินการ (outsource) ของ ICO portal และร่างประกาศที่เกี่ยวข้องในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้

คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การ outsource เพื่อให้สามารถ outsource งานที่เกี่ยวข้องกับ ICO portal เพิ่มเติม และปรับปรุงหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO portal) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับลักษณะการดำเนินธุรกิจ ICO portal รวมถึงส่งเสริมระบบนิเวศ (ecosystem) ของการให้บริการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (investment token)ให้สมบูรณ์และมีความเข้มแข็ง

อีกทั้งเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ในช่วงระหว่างการแก้ไขกฎหมายเพื่อย้าย investment token มากำกับดูแลภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพและความเหมาะสมในการกำกับดูแล ICO portal

ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการดังกล่าวและร่างประกาศที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1. การปรับปรุงหลักเกณฑ์outsource ของ ICO portal โดยกำหนดให้สามารถ outsource งานที่เกี่ยวข้องกับ ICO portal ได้ทุกระบบงาน รวมถึงงานตรวจสอบและสอบทาน (due diligence) ข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลบางส่วน โดย outsource งานดังกล่าว ได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ระหว่าง (1) ด้าน Business เช่น ข้อมูลผู้ออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล แผนธุรกิจ โครงการโทเคนดิจิทัล เป็นต้น หรือ (2) ด้าน Technology ได้แก่ ชุดรหัส (source code) ในสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) หรือกลไกอื่นที่นำมาใช้ทดแทน smart contract ในแต่ละโครงการ และห้าม outsource ช่วง ทั้งนี้ ICO portal ต้องขออนุญาต ก.ล.ต. ก่อนมอบหมายงานที่เกี่ยวข้องกับงาน due diligence

2. การปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ ICO portal ได้แก่ การนำส่งและเปิดเผยงบการเงินประจำงวดการบัญชีของ ICO portal และการดำเนินการกับ ICO portal ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเหมาะสมในการกำกับดูแล