IVF ปลื้ม! นักลงทุนแห่จอง IPO 130 ล้านหุ้น พร้อมเทรดเอ็มเอไอ 11 ธ.ค.นี้
4 ธ.ค. 2567 00:00บมจ.อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF) ปิดจองหุ้นไอพีโอก่อนกำหนด หลังนักลงทุนแห่จองหุ้นไอพีโอ 130 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.10 บาท มูลค่ารวม 403 ล้านบาท พร้อมเข้าเทรดเอ็มเอไอ 11 ธ.ค.นี้
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF ได้เปิดขายหุ้น IPO จำนวน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 29.55 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งได้รับความสนใจจากอย่างล้นหลามจากนักลงทุน รวมมูลค่าระดมทุน 403 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นทั้งในตัวธุรกิจของ IVF และแนวโน้มของอุตสาหกรรมรักษาผู้มีบุตรยากที่มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มการเติบโตของตลาด Fertility Tourism ทั่วโลก และการที่ประเทศไทยเป็น Medical Hub รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์
รวมถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ IVF ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 11.24 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 63.31 ล้านบาทในปี 2565 และ 121.55 ล้านบาทในปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยาก ยิ่งตอกย้ำความสามารถในการทำกำไรและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ส่งผลให้มั่นใจได้ว่า “IVF” จะเป็นหุ้นที่น่าจับตามอง สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน
นางสาวเกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF กล่าวว่า การเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นก้าวสำคัญของอินสไปร์ ไอวีเอฟ เราตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ต่อยอดความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อพัฒนาการรักษาผู้มีบุตรยากให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมายการเป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากชั้นนำที่ผู้คนไว้วางใจ ทั้งในระดับประเทศและระดับเอเชีย โดยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนที่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 84 ล้านบาท, ใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายสาขา จำนวน 190 ล้านบาท และใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจให้บริการดูแลสุขภาพ (Wellness) เป็นต้น จำนวนรวมทั้งสิ้น 114 ล้านบาท
"ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนอินสไปร์ ไอวีเอฟ เป็นอย่างดี และขอให้คำมั่นว่าจะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และยึดมั่นในธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งสู่จุดหมายในการเป็น ‘ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากด้วยมาตรฐานสากลในระดับแนวหน้าของประเทศและระดับเอเชีย’ เพื่อรองรับตลาด Fertility Tourism ในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับ รวมถึงผู้ถือหุ้น พนักงาน พันธมิตร และสังคมโดยรวม” นางสาวเกศิณี กล่าว