MENU

DMT ปี 67 โชว์รายได้ 2,485 ล้าน ชูกลยุทธ์ New Business Venture ขับเคลื่อนธุรกิจ

 21 ก.พ. 2568 00:00

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ปี 67 โชว์รายได้ 2,485 ล้านบาท กำไรสุทธิ 899 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเพิ่มหุ้นละ 0.20 บาท ฟากบิ๊กบอสประกาศกลยุทธ์ New Business Venture ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ลุยหาธุรกิจใหม่ ควบคู่กับงานประมูลโครงการ มุ่งเน้น M82 M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10%


นายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 2,485.65 ล้านบาท เป็นรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 2,458.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางที่มีจำนวน 2,324.97 ล้านบาท รวมทั้งมีรายได้จากการลงทุน   25.35 ล้านบาท และรายได้อื่น 2.11 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 899.33 ล้านบาท


โดยในปี 2567 มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวม 111,922 คัน เพิ่มขึ้น 4.69% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวม 106,907 คัน และมีรายได้ค่าผ่านทางทั้งปีเป็นจำนวน 2,458.19 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 6%


พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.83 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 980.42 ล้านบาท กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติอนุมัติเรื่องดังกล่าวในวันที่ 25 เมษายน 2568 และเนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วรวมหุ้นละ 0.63 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายครั้งล่าสุดนี้ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 มีค. 2568 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พค. 2568


“ในปี 2567 บริษัทฯ มี EBITDA จำนวน 1,886.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี EBITDA จำนวน 1,806.18 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลรวมหุ้นละ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดปีก่อนที่จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.60 บาทจากการดำเนินงาน รวมทั้งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำมากที่ 0.11 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 0.18 เท่า เนื่องจากมีเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้ในการดำเนินงานลดลงจาก 800 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2566 เหลือเป็นจำนวน 200 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยไม่มีภาระหนี้สินระยะยาวที่มีดอกเบี้ย ทั้งยังมีวงเงินทุนสำรองหมุนเวียนที่ยังมิได้เบิกใช้จำนวน 2,000 ล้านบาท พร้อมเข้าประมูลโครงการM82 ที่สำคัญ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดเก็บรายได้ตามสัญญาสัมปทานในอัตราใหม่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ได้อย่างเรียบร้อย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานปี 2568 ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายศักดิ์ดา กล่าว


สำหรับปี 2568 บริษัทฯ เน้นดำเนินกลยุทธ์ New Business Venture ซึ่งเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มธุรกิจและแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่กับการเข้าประมูลโครงการ โดยมีเป้าหมายหลัก คือ โครงการ M82, M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน และคาดการณ์ปริมาณการจราจรปี 2568 เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปี 2567 ทีมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 111,922 คันต่อวัน ซึ่งปัจจุบันพบว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนของการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่คึกคัก


นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่า 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด (ASIAM) ที่ดำเนินธุรกิจด้านงานวิศวกรรม และ บริษัท แอลฟา ดี เอ็ม เทค จำกัด ที่ได้จัดตั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัล ระบบบริหารจัดการการจราจรและความปลอดภัย และระบบบริหารจัดการทรัพย์สิน จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย