
ก.ล.ต.ส่งอัยการฟ้องแพ่งผู้ทำผิด 10 ราย กรณีปั่นหุ้น STAR
11 มี.ค. 2568 00:00ก.ล.ต. ส่งพนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 10 ราย กรณีสร้างราคาหุ้นบมจ.สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค (STAR) เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุด หลังดื้อแพ่งไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษตามที่ ค.ม.พ. กำหนด
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดรวม 15 ราย ในกรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ STAR โดยกำหนดให้ชำระเงินรวม 65,170,068 บาท (ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด) และกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นระยะเวลารายละ 14 เดือน หรือ 24 เดือน หรือ 25 เดือน หรือ 39.5 เดือน (แล้วแต่กรณี) และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นระยะเวลารายละ 28 เดือน หรือ 48 เดือน หรือ 50 เดือน หรือ 79 เดือน (แล้วแต่กรณี)
ทั้งนี้ มีผู้กระทำความผิด 5 ราย ได้ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ส่วนผู้กระทำความผิดอีก 10 ราย ได้แก่ 1. นางอนัญญา เรืองศักดิ์วิชิต 2. นางกิ่งกาญจน์ สมิตานนท์ 3. นางสาวนฤมล แมงทับ 4. นายโดม พรหมายน 5. นางสาวณัฐชานันท์ สิริรุจิโยทัย 6. นายสุสิชณ์ทักษ์ อัจฉริยะสมบัติ 7. นายธนกฤต อัจฉริยะสมบัติ 8. นางสาวภัสธารีย์ วงษ์ทองหลิน 9. นายประพล มิลินทจินดา และ 10. นายกานต์ พรหมายน ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ซึ่งพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดทั้ง 10 ราย ไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต.
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดทั้ง 10 รายดังกล่าวต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 47,918,019.93 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิดทั้ง 10 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ตามแต่ละกรณีที่สร้างราคา ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ
อนึ่ง ก.ล.ต. ได้นำส่งการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542