MENU

WHA Group โชว์ไตรมาส 1/68 ธุรกิจหลักโต โกยกำไรทะลุ 2 พันล้านบาท

 9 พ.ค. 2568 00:00

บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) โชว์งบไตรมาส 1 ปี 68 รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 5,181 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท จากการเติบโต 5 กลุ่มธุรกิจหลัก


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA Group) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 1 ปี 2568 ว่า บริษัทมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 5,193 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 5,181 ล้านบาท และกำไรปกติ 2,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% (Y-Y) เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจัยที่ทำให้กำไรปกติมาจากการเติบโตของ 5 กลุ่มธุรกิจ


ธุรกิจโลจิสติกส์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวม 3,092,621 ตร.ม. สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรฯ และธุรกิจโมบิลิตี้ ทั้งสิ้น 533 ล้านบาท


ขณะที่ทรัสต์เพื่อการลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ในปีนี้ บริษัทมีแผนการขายทรัพย์สินและ/หรือสิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART รวมประมาณ 70,000 ตร.ม.มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยล่าสุดบอร์ดได้อนุมัติการขายสิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องของทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมให้กับกองทรัสต์ WHART เป็นพื้นที่รวม 32,524 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่ารวม 808 ล้านบาท


ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มียอดขายที่ดิน จำนวน 876 ไร่ และยอด MOU อยู่ที่ 1,311 ไร่ และสามารถรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจที่ดินและการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในไตรมาส 1/2568 รวม 3,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 69% มีสาเหตุหลักจากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับราคาขายที่ดินในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องกับการย้ายฐานการลงทุน/การผลิต (Relocation) มายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ)  ผลประกอบการธุรกิจน้ำยังมีแนวโน้มที่เติบโตต่อเนื่อง โดยรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคจากการดำเนินงานรวม เท่ากับ 747 ล้านบาท จากปริมาณยอดขายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เท่ากับ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นยอดจำหน่ายน้ำในประเทศไทย จำนวน 30.9 ล้านลูกบาศก์เมตร และประเทศเวียดนาม ตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 9.1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน


ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์เท่ากับ 132 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าจากการดำเนินงานเท่ากับ 176 ล้านบาท โดยธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไตรมาสแรก มีจำนวนเซ็นสัญญาโครงการ Private PPA เพิ่มจำนวน 15 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีจำนวนเซ็นสัญญาโครงการ Private PPA สะสมจำนวน 305 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 980 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้ว 704 เมกะวัตต์ (เป็นพลังงานหมุนเวียน 176 เมกะวัตต์) และที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 277 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด


ธุรกิจดิจิทัล บริษัทมุ่งยกระดับสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Technology-driven Organization) จากการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรในด้านนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และการทำโครงการ Digital Transformation ในทุกมิติ พร้อมทั้งมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อาทิ การพัฒนา โมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับจัดการยานพาหนะไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ โดยบริษัทได้ตั้งเป้ายอดการใช้งาน แพลตฟอร์มที่ 900 คัน ภายในปี 2568 และได้เปิดให้บริการแอปพลิเคชัน WHASApp เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้าและทีมงาน WHA โดยบริษัทตั้งเป้าผู้ใช้งานภายในปีนี้ 4,000 ราย


ธุรกิจโมบิลิตี้ ไตรมาส 1/2568 มียอดการให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าสะสมรวม 360 คัน ทั้งนี้บริษัท เดินหน้าพร้อมให้บริการโมบิลิกส์ (Mobilix) ด้วยการสร้าง Built-to-Suit EV ecosystem of Logistics ที่ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและการให้บริการอย่างครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย 3 บริการหลัก คือ บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service) เป็นบริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (On Premise & Public EV Charging Solution) บริการเครื่องชาร์จและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) แพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะ เพื่อตอบโจทย์การจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่