MENU

PTG โชว์ยอดขาย Non-Oil เติบโต 32% กาแฟพันธุ์ไทยนำทัพโตกว่าเท่าตัว

 15 พ.ค. 2568 00:00

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โชว์รายได้จากการขายและการให้บริการไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 57,407 ล้านบาท รับแรงหนุนจากธุรกิจ Non - Oil เพิ่มขึ้น 32.2% นำโดยกาแฟพันธุ์ไทยโตกว่าเท่าตัวจากปีก่อน พร้อมรักษาส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านสถานีบริการ เพิ่มขึ้นเป็น 22.1% ซีอีโอ “พิทักษ์ รัชกิจประการ” ประเมินแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 68 ยังเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจ Non-Oil ที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTGเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2568) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 57,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% YoY ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Non-Oil ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 5,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% YoY เป็นการเติบโตที่มาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย โดยมีรายได้จากการขายและการบริการเท่ากับ 959 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว YoYและ 32.2% QoQ


ทั้งนี้เนื่องจากมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2568 มีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งสิ้น 1,476 สาขา เพิ่มขึ้น 55.9% YoY หรือคิดเป็น 529 สาขา สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการขยายสาขามากกว่า 1.5 สาขาต่อวัน ประกอบกับการเติบโตของ (Same-Store-Sales Growth : SSSG) การกลับมาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่กำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil อยู่ที่ 1,329 ล้านบาท เติบโต 55.1% YoY เป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่เติบโตโดดเด่น โดยมีกำไรขั้นต้น 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น120.4% YoY


นายพิทักษ์ กล่าวต่อถึง แนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังของปี 2568 เชื่อว่ายังคงมีศักยภาพเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจ Non - Oil ที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาของ กาแฟพันธุ์ไทย ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องด้วย และความภักดีของกลุ่มสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่มีความแข็งแกร่งในการใช้บริการภายใต้ ระบบนิเวศ Max World


“ช่วงต้นปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงที่บริษัทฯ ลุยพัฒนาธุรกิจตามแผน โดยเฉพาะธุรกิจ Non - Oil แต่ผลการดำเนินงานโดยรวมถือว่ายังมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างเห็นได้ชัด จากกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญจากแผนขยายสาขา และยอดขายจากสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าสมาชิกเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจ Oil มีมาร์เก็ตแชร์ค้าปลีกน้ำมันสูงถึง 22.1 % โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม และสามารถใช้ชีวิตภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทฯ ได้อย่าง อยู่ดี มีสุข” นายพิทักษ์ กล่าว