MENU

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ Q1/68 กวาดรายได้กว่า 4.16 หมื่นล้าน กำไรพุ่ง 155%

 22 พ.ค. 2568 00:00

บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดผลงานไตรมาส 1/68 กวาดรายได้รวม 41,616 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% จากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ


บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/68 โดยมีกำไรสุทธิ ที่ 1,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% จากปีก่อน จากต้นทุนลดลง และไม่มีผลกระทบจากรายการภาษีพิเศษเหมือนไตรมาสเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีกำไรสุทธิปรับปรุงที่ 1,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 41,616 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.8% ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 0.9% จากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงในหลายกลุ่มธุรกิจ


บริษัทฯ ยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อเนื่อง และได้ยุติธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ได้แก่ บริษัท ไทย-สแกนดิค สตีล จำกัด (TSS) เพื่อโฟกัสธุรกิจหลักตามแผนกลยุทธ์ระยะยาว


กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์


BJC รายงานยอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์ไตรมาส 1/68 ที่ 5,699 ล้านบาท ลดลง 10.1% จากราคาวัตถุดิบที่ลดลง และความต้องการกระป๋องอะลูมิเนียมในไทย - เวียดนามที่อ่อนตัว อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.6% อยู่ที่ 512 ล้านบาท จากอัตรากำไรที่ดีขึ้นตามต้นทุนหลัก เช่น โซดาแอช เศษแก้ว และก๊าซธรรมชาติที่ลดลง


ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วแม้ยอดขายลดลง 7.1% แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารต้นทุนและการเติบโตของธุรกิจร่วมค้าในต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มบรรจุภัณฑ์กระป๋องได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลง 13.1% และอัตรากำไรที่อ่อนตัว


กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค


BJC รายงานยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภคในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 5,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากปีก่อน จากยอดขายที่แข็งแกร่งในกลุ่มอาหารและสินค้าอุปโภค ดันกำไรสุทธิแตะ 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% โดยมีอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นเป็น 6.6%


กลุ่มธุรกิจอาหารเติบโตเล็กน้อย 1.2% จากแคมเปญส่งเสริมการขาย ด้านกลุ่มสินค้าอุปโภคยอดขายพุ่ง 12.1% จากธุรกิจจัดจำหน่ายกระดาษและสินค้ากลุ่มแพรอท พร้อมประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนกลุ่มธุรกิจต่างประเทศแม้ยอดขายลดลงจากผลกระทบค่าเงิน แต่สามารถรักษากำไรสุทธิเติบโตได้จากการควบคุมค่าใช้จ่าย


กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค


กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิคของ BJC ไตรมาส 1/68 มียอดขาย 2,121 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น โบท็อกซ์ และอุปกรณ์การแพทย์ แม้กลุ่มเทคนิคจะชะลอตัวจากการหยุด

ธุรกิจ TSS


อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นแตะ 35.0% จาก Product mix ที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปิดกิจการ TSS ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมลดลง 70.4% เหลือ 56 ล้านบาท


อย่างไรก็ดี หากไม่รวมรายการพิเศษ กลุ่มเวชภัณฑ์และเทคนิคมีกำไรหลัก (Core Profit) เพิ่มขึ้น 23.4% แตะ 232 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นเป็น 10.9% จาก 8.9% ในปีก่อนหน้า


กลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่


กลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่ของ BJC ไตรมาส 1/68 รายได้รวมอยู่ที่ 28,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จากปีก่อน โดยรายได้จากการขายสินค้าเติบโต 1.8% แตะ 25,483 ล้านบาท จากยอดขายกลุ่มอาหารสดและอาหารแห้งที่แข็งแกร่ง ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) โต 2.1% หรือ 3.4% หากไม่รวมผลจากปีอธิกสุรทิน


รายได้อื่นลดลง 3.6% จากการปรับปรุงสาขาและปิด 3 สาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 89.4%

อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 18.1% จากProduct mix ที่เปลี่ยนไป โดยสินค้ากลุ่มไม่ใช่อาหารมีสัดส่วนลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานและEBITDA ลดลงเล็กน้อยเป็น 5.8% และ 12.2% ตามลำดับ


กำไรสุทธิของกลุ่มค้าปลีกไตรมาสนี้อยู่ที่ 977 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากปีก่อน ตามการลดลงของรายได้อื่นและมาร์จิ้นรวม


กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคง ด้วยวิสัยทัศขององค์กรที่ตั้งเป้าหมาย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ เพื่อร่วมสร้างให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์เพื่อเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง