ตลาดหุ้นไทยพุ่งแรง ดัชนีบวก 37.23 จุด ปิดตลาดที่ 1,100.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.50% มูลค่าการซื้อขาย 5.28 หมื่นล้านบาท นักลงทุนคลายกังวล หลังอิสราเอล - อิหร่านประกาศหยุดยิง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกเกณฑ์ชั่วคราว ให้กลับมาใช้เกณฑ์ “Ceiling & Floor” ปกติ +/-30% ตั้งแต่ 25 มิ.ย. 68

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (24 มิ.ย. 68) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรง จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลาย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศอิสราเอลและอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด และมีจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1,074.96 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดหนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ระดับสูงสุด 1,100.01 จุด เพิ่มขึ้น 37.23 จุด หรือคิดเป็น 3.50% มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 52,840.03 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 240.00 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 1,289.27 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,662.18 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 3,191.45 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ราคาปิดที่ 104.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.25 บาท หรือ 8.57% มูลค่าการซื้อขาย 4,118.30 ล้านบาท บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ปิดที่ 111.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,107.10 ล้านบาท และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ปิดที่ 278.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.46% มูลค่าการซื้อขาย 2,966.96 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียได้ขานรับข่าวสงครามตะวันออกกลางเช่นเดียวกัน โดยตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 24,177.07 จุด เพิ่มขึ้น 487.94 จุด หรือ 2.06%,ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 38,790.56 จุด เพิ่มขึ้น 436.47 จุด หรือ 1.14% ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,420.57 จุด เพิ่มขึ้น 38.98 จุด หรือ 1.15% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต (KOSPI)ปิดที่ 3,103.64 จุด เพิ่มขึ้น 89.17 จุด หรือ 2.96% และตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนีS&P/ASX200 ปิดที่ 8,555.50 จุด เพิ่มขึ้น 80.60 จุด หรือ 0.95% และดัชนีAll Ordinariesปิดที่ 8,774.80 จุด เพิ่มขึ้น 86.80 จุด หรือ 1%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงสอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชีย ปัจจัยหนุนหลักมาจากข้อตกลงหยุดยิงของอิสราเอลและอิหร่าน ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงภาพรวมการเมืองไทยที่รัฐบาลยังสามารถประคับประคองเดินหน้าต่อได้ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) อาจมีการปรับตัวลงบ้างภายหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างแรงในวันนี้ โดยนักลงทุนควรจะติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) เพื่อดูทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน โดยให้แนวต้าน 1,110 จุด และแนวรับ 1,080 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกเกณฑ์ชั่วคราว กลับมาใช้ “Ceiling & Floor” ปกติ +/-30%

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศใช้มาตรการชั่วคราวเกี่ยวกับ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยจากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เห็นว่า ปัจจุบัน ผู้ลงทุนได้มีโอกาสในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น เพื่อให้การดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปอย่างเหมาะสม ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) จึงเห็นควรให้ยกเลิกมาตรการชั่วคราวดังกล่าว โดยจะกลับไปใช้เกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป

โดยกำหนด Ceiling & Floor สำหรับ SET, maiในส่วนของหุ้นและหน่วยทรัสต์ เป็น +/-30%, Foreign share +/-60% ขณะที่ตลาด TFEX Index Futures / Options, Sector Futures, Single Stock Futures +/-30%

ส่วนกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ ที่ ±10% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น

พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์