MENU

ลูกโลกสีเขียวเชิดชูผู้พิทักษ์ธรรมชาติ ครั้งที่ 23 ร่วมแสดงพลัง ‘ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ สู่ความยั่งยืน’

 27 มิ.ย. 2568 00:00

ท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและทวีความรุนแรง ทั้งภัยพิบัติ ภาวะโลกร้อน และความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ท้าทายระดับโลก ในประเทศไทยของเราเอง ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ทุ่มพลังทำงานแข็งขันในการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า ให้คงอยู่และเกิดความยั่งยืน


เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูบุคคลเหล่านั้น สถาบันลูกโลกสีเขียวจึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลลูกโลกสีเขียว ซึ่งดำเนินมาถึงปีที่ 23 แล้วใน พ.ศ.2568 นี้ และมีพิธีมอบรางวัลไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณอาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ สู่ความยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียว, นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะกรรมการและเครือข่ายลูกโลกสีเขียวทั่วประเทศ ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุลดร.สุเมธ ตันติเวชกุล

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ได้กล่าวย้ำถึงภารกิจสำคัญของสถาบันลูกโลกสีเขียวในการสร้างและส่งเสริมการเรียนรู้ ปรับตัวอย่างมีภูมิปัญญาด้วยการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้กลับคืนมาอย่างสมดุลรางวัลลูกโลกสีเขียวจึงเปรียบเสมือนเครื่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคลและชุมชนผู้มีผลงานโดดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ไปยังชุมชนอื่น ๆ และคนรุ่นต่าง ๆ ซึ่งจะถักทอเป็นเครือข่ายความร่วมมือเพื่อทำให้โลกยั่งยืนได้อย่างแท้จริง


“ทุกชุมชนและบุคคลที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ท่านคือแบบอย่างของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เข้าใจธรรมชาติ และมีจิตวิญญาณของการแบ่งปัน เป็นพลังชุมชนที่ขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าไปอย่างยั่งยืน” ดร.สุเมธ กล่าวแสดงความชื่นชม


นายวุฒิกร สติฐิตนายวุฒิกร สติฐิต

ด้าน นายวุฒิกร สติฐิต เน้นย้ำถึงพันธกิจของ ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้เป้าหมายความยั่งยืน มุ่งลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม พัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด และร่วมมือกับชุมชนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ


“สิ่งที่เราเชื่อมาโดยตลอดคือ ‘พลังจากชุมชน’ เพราะในชุมชนมีทั้งภูมิปัญญา ความเข้าใจ และความผูกพันกับธรรมชาติที่ลึกซึ้ง ความสำเร็จในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงเริ่มจากรากฐานนี้ รางวัลลูกโลกสีเขียวคือเครื่องยืนยันว่า พลังเล็ก ๆ จากแต่ละชุมชนสามารถรวมกันเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศให้มีความยั่งยืนได้”นายวุฒิกร กล่าวสะท้อนถึงความสำคัญของพลังจากท้องถิ่น


นับตั้งแต่ถือกำเนิดในปี 2542 “รางวัลลูกโลกสีเขียว” ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนเป็นกำลังใจยกย่องและเผยแพร่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบุคคล กลุ่มคน และเยาวชนให้เป็นที่รับรู้ของสังคมในวงกว้าง ปัจจุบันมีผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียวรวมทั้งสิ้น 858 ผลงาน มีเครือข่ายลูกโลกสีเขียว กว่า 5,000 คนทั่วประเทศ


โดยในปีนี้ มีผลงานทรงคุณค่าที่ได้รับรางวัลรวม16 ผลงาน แบ่งเป็น4 ประเภทรางวัล ได้แก่


1. ประเภทชุมชน 6 ผลงาน

2. ประเภทกลุ่มเยาวชน 4 ผลงาน

3. ประเภทสิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน 3 ผลงาน

4. ประเภทงานเขียน 3 ผลงาน


ขณะที่ภายในงานยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์หลากหลาย ทั้ง “ชม” นิทรรศการผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียวและการบรรยายพิเศษ “ช้อป” สินค้าคุณภาพจากชุมชนเครือข่ายลูกโลกสีเขียวทั่วประเทศ “เชื่อม” ร้อยเครือข่ายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวทีเสวนาหลักและเวทีเสวนาลานภาค พร้อม “ชวน” ทำกิจกรรมเรียนรู้คุณค่าผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียวที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งการ “ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ สู่ความยั่งยืน” ซึ่งกำลังขยายไปทั่วประเทศอย่างแท้จริง