
บ้านปู รุกลงทุนโครงการแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย กำลังผลิตรวม 350 เมกะวัตต์ เสริมแกร่งพอร์ตพลังงานสะอาด
30 มิ.ย. 2568 00:00บมจ.บ้านปู (BANPU) ส่งบริษัทย่อย Banpu Energy Australia Pty Limited (BEN) ร่วมทุนกับ EnergyAustralia พัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงานวูรีน (Wooreen Energy Storage System : WESS) ในประเทศออสเตรเลีย กำลังการผลิตติดตั้ง 350 เมกะวัตต์ คาดเปิดดำเนินการรับรู้รายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2570
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทย่อย Banpu Energy Australia Pty Limited (BEN) ซึ่งบ้านปูถือหุ้น 100% ได้ลงนามในสัญญาการลงทุนสัดส่วนร้อยละ 50 และอีกร้อยละ 50 โดย EnergyAustralia เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงานวูรีน (Wooreen Energy Storage System : WESS) ณ ภูมิภาคลาโทรบ วัลเลย์ (Latrobe Valley) รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย มีกำลังการผลิตติดตั้ง 350 เมกะวัตต์ และความจุพลังงาน 1,400 เมกะวัตต์ชั่วโมง ที่สามารถจ่ายไฟสู่บ้านเรือนได้ถึง 230,000 หลังต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ชั่วโมงในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (เทียบเท่า 15,105 ล้านบาท) ซึ่งมูลค่าตามสัดส่วนการลงทุนของ BEN อยู่ที่ประมาณ 110 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (เทียบเท่า 2,374 ล้านบาท) โดยโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจะเปิดดำเนินการและรับรู้รายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2570 การลงทุนในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าการขยายการเติบโตในพอร์ตสำคัญอย่าง Renewables+ หรือธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดพลังงานของออสเตรเลียอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ หรือ BESS มีบทบาทสำคัญให้พลังงานมีใช้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำให้เกิดระบบโครงข่ายพลังงานที่สะอาด และสามารถสร้างรายได้จากความผันผวนของตลาดพลังงาน เนื่องจากโดยทั่วไป BESS ทำหน้าที่กักเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานที่หลากหลาย และมีซอฟต์แวร์ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้สามารถกำหนดช่วงเวลาที่ควรกักเก็บพลังงานไฟฟ้าและช่วงเวลาที่ควรจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงทุนในโครงการ BESS ของบ้านปูครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ของธุรกิจ Renewables+ ซึ่งมุ่งพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่รวมถึง BESS ในหลายประเทศทั่วโลก ควบคู่ไปกับการประเมินเทรนด์พลังงานโลกเพื่อบริหารพอร์ตธุรกิจในประเทศยุทธศาสตร์ที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ (Portfolio Optimization) โครงการ WESS จึงเป็นสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ อีกทั้งมีโมเดลการสร้างรายได้ที่มั่นคงจากการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ EnergyAustralia
“ในการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยั่งยืน (Sustainable Energy Transition) เราเชื่อมั่นว่า BESS จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนระบบพลังงานสะอาด และจะเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Energy Symphonics ของบ้านปู สู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 20% ภายในปี ค.ศ. 2030 และบรรลุ Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2050” นายสินนท์ กล่าว