
PIS โชว์ 6 เดือนแรกปี 68 กำไรพุ่ง 245% ลุยประมูลบิ๊กโปรเจกต์ดันรายได้ปีนี้แตะ 3 พันล้าน
14 ส.ค. 2568 00:00บมจ.โปร อินไซด์ (PIS) โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 68 รายได้ 1,440 ล้านบาท พุ่ง 144% กำไรสุทธิ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 245% จากการรับรู้รายได้งานโครงการภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจต่อเนื่อง "เบญญาภา เฉลิมวัฒน์" ลั่นครึ่งปีหลังลุยประมูลงานเมกะโปรเจกต์ระดับ 1,000 ล้านบาท มั่นใจผลักดันรายได้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่แตะ 3,000 ล้านบาท
นางสาวเบญญาภา เฉลิมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568) บริษัทฯ มีรายได้ 1,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 849 ล้านบาท หรือ 144% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 591 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108 ล้านบาท หรือ 245% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนงวดไตรมาส 2/2568 มีรายได้ 812 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 335 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท หรือ 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับมาในช่วงปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะงานด้านการรับวางระบบแบบครบวงจร (SI : System Integration)ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญสูง และล่าสุดบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ที่ชนะการประมูล และรอรับรู้รายได้ในอนาคตกว่า 4,944 ล้านบาท ผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1 - 3 ปีข้างหน้าเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตจากครึ่งปีแรก บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจหลายโครงการ และปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการประมูลอีกหลายโครงการ ขณะเดียวกัน ได้มองหาโอกาสทางธุรกิจในด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้ารับงานโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และมั่นใจว่าในปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้รวมเติบโตเกิน 15% แตะระดับ 3,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามเป้าหมายที่วางไว้
“ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากงาน SI ค่อนข้างสูง และในครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมพัฒนาโซลูชันที่สอดคล้องความต้องการของลูกค้าและสามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น การประยุกต์ใช้ AI Generative, ระบบCloud-native, Cybersecurity และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Analytics) รวมถึงพัฒนาบุคลากรในทักษะต่างๆ รวมถึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งเป็นการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกในการกระจายความเสี่ยงของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” นางสาวเบญญาภา กล่าว