MENU

GFC ชี้เทรนด์การฝากไข่พุ่ง ปลื้ม Egg Bank ได้รับคำชม “มีความพร้อมสุดในอาเซียน”

 17 ก.ย. 2568 00:00

บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) ชี้เทรนด์การฝากไข่พุ่ง ยอมรับกลุ่ม LGBTQ เป็นตลาดใหญ่ และมีบทบาททำให้ตลาดเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีมานด์การใช้เทคโนโลยีในการเจริญพันธุ์สูง ขณะที่ ศูนย์ธนาคารไข่ (Egg Bank) ของ GFC ได้รับคำชมจากเอเจนซี่ต่างประเทศ “มีความพร้อมสุดในอาเซียน” ทั้งพื้นที่ให้บริการ - การบริการ - อุปกรณ์ - เทคโนโลยี ตอบโจทย์การเข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากได้ครบทุกมิติ


นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก เปิดเผยว่า เทรนด์การฝากไข่ หรือการแช่แข็งไข่ (Egg Freezing) เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหลากหลายประเทศ ทั้งยุโรปและอเมริกา รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ในปัจจุบันเปลี่ยนไป และอยากมีลูกเมื่อพร้อม ดังนั้นทำให้อัตราของผู้หญิงยุคปัจจุบัน หันมาทำ Egg Freezing มากขึ้น เพราะมีแนวคิดที่ว่า Egg Freezing เปรียบเสมือนการซื้อเวลาให้ตัวเอง และอยากให้มองว่า “ไข่คือทรัพย์สินอย่างหนึ่งของผู้หญิงยุคใหม่”


เนื่องจากการเก็บรักษาเซลล์ไข่ไว้ใช้ เป็นการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในเวลาที่พร้อม และเป็นทางเลือกที่ดีของผู้หญิงโสด ที่ต้องการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ของตนเองในกรณีที่ยังไม่ได้แต่งงาน หรือมีความต้องการวางแผนอยากมีลูกหลังอายุ 35 ปี จึงทำให้เลือกใช้การฝากไข่ไว้ในช่วงที่ร่างกายยังสามารถผลิตไข่ได้จำนวนมาก และมีคุณภาพดี ทำให้การฝากไข่ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงยุคใหม่


“ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการฝากไข่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนทำงานที่อยู่ในช่วงสร้างตัว และยังไม่ต้องการจะมีบุตร และกลุ่ม LGBTQ ซึ่งในอนาคตกลุ่มนี้จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงตลาด อย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่ม LGBTQ จะสามารถฝากไข่ หรือฝากสเปิร์ม (Sperm) ได้ก่อนจะไปผ่าตัดแปลงเพศ”


ขณะเดียวกัน GFC มีศูนย์ธนาคารไข่ (Egg Bank) ที่ให้บริการฝากไข่ (Egg Freezing) สำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนอนาคตในการมีบุตร หรือต้องการรักษาสภาพเซลล์ไข่ให้ปลอดภัยจากการรักษาอื่นๆ เช่น เคมีบำบัด เป็นต้น โดย “Egg Bank ของ GFC เป็นที่แรกในอาเซียน โดยมีความพร้อมทั้งในแง่ของพื้นที่ให้บริการ การบริการ อุปกรณ์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ ตอบโจทย์ผู้เข้ารักษาผู้มีบุตรยากที่ครบทุกมิติ” ทั้งนี้ Egg Bank ของ GFC มีการแยกเป็นสัดส่วนออกมาจากพื้นที่ให้บริการอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยภายในศูนย์บริการฝากไข่ดังกล่าว สามารถรองรับการเก็บไข่ของผู้ที่เข้าใช้บริการได้มากถึง 4,500 คน (ปัจจุบันใช้พื้นที่ไปเพียงไม่ถึง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด)


นอกจากนี้ ศูนย์ธนาคารไข่ หรือ Egg Bank ยังมีเทคโนโลยีที่จะคอยดูแลไข่ที่ฝากไว้เป็นอย่างดี ทั้งระบบอัคคีภัยอัตโนมัติ สามารถทำงานได้ภายใน 3 วินาที หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ ขณะเดียวกันก็ยังมีระบบ Asset Control (ระบบการจัดการเพื่อควบคุมการเข้าถึงสินทรัพย์ ทรัพยากร ต่างๆ ขององค์กร) 3 ชั้น มีกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชม. และในอนาคต บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มเทคโนโลยีและพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software) เพื่อที่จะให้ผู้ฝากเช็คสถานะ และตำแหน่งของสิ่งที่ฝากไว้ได้ด้วย อีกทั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่ บริษัทฯ ใช้ในปัจจุบันสามารถรักษาความสมบูรณ์ของไข่หลังละลายเพื่อนำมาใช้ได้ถึง 95 - 98% จากอดีต 60% เท่านั้น


“ปัจจุบัน GFC มีความพร้อมในโครงสร้างทุกๆ ด้าน และพร้อมรองรับตลาดต่างชาติ โดยล่าสุดมี เอเจนซี่ จากต่างประเทศ ที่เข้ามาเป็นตัวแทน หรือตัวกลางที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในกลุ่มผู้มีปัญหามีบุตรยาก เข้ามา Visit GFC ซึ่งทุกรายต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าการให้บริการของ GFC รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อน ประกอบกับความน่าเชื่อถือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับมาตรฐานสากลระดับสูง และมีความพร้อมอย่างมากเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ได้เคยไปVisit มา ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นสัญญาณเชิงบวกในการต่อยอดของ GFC อย่างมาก และคาดว่าในเร็วๆ นี้ จะมีข่าวเชิงบวกต่อบริษัทฯ”


สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมภาวะการมีบุตรยากที่ลดลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสัดส่วนลูกค้าต่างชาติที่ลดลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงนั้น ต้องยอมรับว่า ในปัจจุบัน GFC มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติไม่มาก จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนและนโยบายในการขยายตลาดต่างชาติเพื่อกระจายพอร์ตในการให้บริการกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมองว่า ประเทศไทยเป็น Medical Tourism ที่เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนสำคัญของการหนุนรายได้เข้าสู่ประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการยกระดับบริการเพื่อครองใจลูกค้าในประเทศ GFC จึงเดินเกมรุก ทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการใน GFC เพิ่มขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จและความยั่งยืนในการรักษาและขยายฐานกลุ่มลูกค้าในสภาวะตลาดปัจจุบัน