บมจ.88(ไทยแลนด์) หรือ 88TH โชว์ 9 เดือนแรกปี 68 โกยกำไรสุทธิ พุ่งต่อเนื่อง 133.48% แตะ 75.81 ล้านบาท กวาดรายได้จากการขายและบริการ 474.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.26% รับอานิสงส์ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม LYO - Skincare และช่องทางออนไลน์ คึกหนุนยอดขายโตแรงต่อเนื่อง

นางณัฐฐินี ชวนะนิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) มีรายได้จากการขายและบริการ 474.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.27 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 38.26% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 75.81 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต133.48%

ทั้งนี้สาเหตุที่บริษัทฯการเติบโตของกำไรอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการขายและบริการผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และหนังศีรษะ (Hair Care) ที่เพิ่มขึ้น 118.72 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 38.38% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากสารสกัดสมุนไพร (LYO Herbal) ที่เพิ่มขึ้น 85.96 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 289.11% ซึ่งตอกย้ำถึงความสำเร็จหลังจากที่ LYO Herbal มีการจำหน่ายต่อเนื่อง หลังจากที่เริ่มจัดจำหน่าย LYO Herbal ในเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดผมขาดร่วง (LYO Anti-Hair Loss) เพิ่มขึ้น 25.18 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 18.98% รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แชมพูปิดผมขาว (LYO Hair Color) เพิ่มขึ้น 7.58 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 5.16% ขณะที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.55 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 30.96%

นอกจากนี้ บริษัทฯยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาได้จากสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารเทียบกับรายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

นายชนพัฒน์ ขาวอุบล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน 88TH กล่าวเสริมว่าสำหรับไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 167.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3 5.26 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 26.65% โดยมีกำไรสุทธิ 25.36 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 58.80%  เนื่องจากการดำเนินกลยุทธ์ในการขายของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online) ส่งผลให้ไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากการขายและบริการผลิตภัณฑ์ในช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ เพิ่มขึ้น 27.02 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 114.64% และมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 65.85% เป็น 68.92 % สอดคล้องกับสัดส่วนการขายผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีสภาพคล่องสูง พิจารณาได้จากอัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) ที่ระดับ 6.5 เท่า และฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยอ้างอิงจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ในระดับต่ำเพียงแค่ 0.18 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ระดับ 30% ต่อปี