MENU

“หมึกช็อต” คืออะไร? ทำไมดราม่าสนั่นเมือง

 11 ก.พ. 2565 00:00

เกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์อย่างมาก กับเมนูไวรัลสุดฮิตอย่าง“หมึกช็อต” บ้างก็ว่าอร่อย บ้างก็ว่าทรมานสัตว์ แล้วเมนูที่ว่านี้ คืออะไร? มาดูข้อมูลคร่าว ๆ กันค่ะ


หมึกช็อต คือการนำปลาหมึกตัวเป็น ๆ ใส ๆ มาจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่อยู่ในแก้วช็อต ซึ่งการกินจะเอาหัวของปลาหมึกจิ้มลงไปในน้ำจิ้ม แล้วกินกันแบบสด ๆ


จากข้อมูลในเพจ "ซวยชิบหายเสือกเกิดมาอร่อย" ได้โพสต์ขั้นตอนการกินเมนู "หมึกช็อต" ระบุว่า


"ตอนนี้มีเมนูใหม่ที่กลายเป็นไวรัล "ปลาหมึกช็อต" คือปลาหมึกเด็กหมึกเล็กเป็น ๆ ตัวใส ๆ เสิร์ฟในถ้วยช็อตที่มีน้ำจิ้มซีฟูดโดยการเอาหัวปลาหมึกปักลงไปในน้ำจิ้ม เป้าประสงค์เพื่อให้ปลาหมึกแสบร้อนและพยายามสูดน้ำเพื่อพ่นหนีตามสัญชาตญาณ แต่แทนที่จะได้สูดน้ำเข้าไป กลับเป็นสูดน้ำจิ้มซีฟูดแสนเผ็ดร้อนเข้าไปในตัวมันแทน


ซึ่งคนกินก็จะรอจนน้ำจิ้มเข้าไปอยู่ในตัวหมึกแล้วก็หยิบกิน บ้างกัดหัวแล้วกิน หรือบางคนจะกินทั้งตัวเพื่อให้น้ำจิ้มในตัวมันระเบิดคาปากออกมา ความหวานของหมึกสด ๆ เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มซีฟูดทั้งยังมีหนวดที่ขยับหนุบหนับในปากสร้างความบันเทิงให้คนกินได้เป็นอย่างดี ในบางครั้งหมึกจะพ่นน้ำหมึกออกมาด้วย สิ่งนี้ก็ถือเป็นเครื่องชูรสเพิ่มความอุมามิให้มื้ออาหารแสนโหดร้ายนี้ ซวยฉิบหายเสือกเกิดมาอร่อยจริง ๆ


ปล.เศษพริกนิดเดียวกระเด็นเข้าตาเราก็ว่าแย่แล้ว เจ้าหมึกโดนขนาดนี้คงทรมานน่าดู ลุงดีเลือกกินตัวที่ตายแล้วดีกว่ากินเป็น ๆ คงทำใจไม่ไหว ฮือ ๆ"

หลังจากที่เมนูนี้โด่งดังและถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ทำให้มีการแตกเป็น 2 ฝ่าย แยกเป็นสองฝั่งความคิด ฝั่งแรกบอกว่าเป็นการทรมานสัตว์ สงสารปลาหมึกจัง ถ้ากินแบบนี้ขอผ่านดีกว่า ส่วนอีกฝั่งบอกว่าไม่เห็นแปลกเพราะเป็นอาหารอยู่แล้วและการกินแบบนี้ก็เพื่อความอร่อยไม่ใช่ความสนุกสนาน


แต่ว่ากันว่า ปลาหมึกก็มีความรู้สึก? โดยเร็ว ๆ นี้ การศึกษาอังกฤษชี้ “ห้ามต้มกุ้ง-ปู-ปลาหมึกที่กำลังมีชีวิตในน้ำเดือด” หลังพบเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด โดยในการสรุประบุว่าสัตว์ประเภทปลาหมึก (cephalopods) และสัตว์ประเภทมีสิบขา(



decapods ) เช่นกุ้ง ปู นั้นถูกค้นพบว่ามีความรู้สึกรับรู้ความเจ็บปวดและทรมาน ดังนั้นจึงสมควรที่จะจัดให้สัตว์เหล่านี้อยู่ในกลุ่มสัตว์ที่สามารถรับรู้ความรู้สึกได้ (sentient beings)


ทั้งนี้กฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ที่ได้รับการแก้ไขใหม่ของรัฐบาลลอนดอนกำลังเป็นที่ถกเถียงกัน โดยรัฐมนตรีสวัสดิภาพสัตว์อังกฤษ ลอร์ด แซ็ค โกลด์สมิท (Lord Zac Goldsmith) กล่าวในเรื่องนี้ว่า “กฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ที่รับรู้ความรู้สึก (Animal Welfare Sentience Bill) จะให้การคุ้มครองอย่างสำคัญว่าสวัสดิภาพของสัตว์จะถูกพิจารณาเมื่อมีการร่างกฎหมายใหม่ขึ้นมา ซึ่งในเวลานี้วิทยาศาสตร์ได้ชี้ชัดแล้วว่าสัตว์ประเภทสิบขาและสัตว์ประเภทปลาหมึกสามารถรับรู้ความเจ็บปวด ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่กำหนดให้พวกมันได้รับการคุ้มครองกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้”


รายงานยังกล่าวอีกว่ามีการใช้8 วิธีเพื่อตรวจสอบการหาความสามารถรับรู้ความรู้สึกที่รวมไปถึง ความสามาถในการเรียนรู้ การมีตัวรับรู้ความเจ็บปวด การตอบสนองต่ออาการชา ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญมีหลักฐานที่หนักแน่นของความสามารถรับรู้ความรู้สึกในกลุ่มสัตว์ประเภทปลาหมึกยักษ์และสัตว์ประเภทปู แต่สำหรับสัตว์อื่น ๆ ที่รวมอยู่ใน 2 กลุ่มนี้ เช่น ปลาหมึกและกุ้งล็อบสเตอร์พบว่ามีหลักฐานค้นพบว่าสามารถรับรู้ความรู้สึกได้ แต่ไม่สูงเท่าในปลาหมึกยักษ์และปู

ส่วนการกินเมนูยอดฮิตดังกล่าวนั้น ด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนว่า ถ้ากินแบบสด ๆ ต้องระวังแบคทีเรีย-พยาธิ เนื่องจากปลาหมึกหรือสัตว์ทะเลอื่น ๆ เช่น กุ้ง หรือหอย ก็อาจจะมีพยาธิอาศัยอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวกลม ในกลุ่มพยาธิอะนิซาคิส และพยาธิตัวตืดในกลุ่มพยาธิตืดปลา ซึ่งไทยตรวจพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ในปลามากกว่า 20 ชนิด


ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับพยาธิ มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด คล้ายกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร บางรายอาจมีอาการท้องเสีย หรือถ้ามีแผลในกระเพาะ ขนาดใหญ่ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด รวมถึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายอื่น ๆ เช่น เข้าไปอาศัย ตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผื่นคัน ปวดบวมบริเวณผิวหนัง หรือเข้าไปชอนไชทำลายอวัยวะภายใน ทำให้เลือดออกในช่องท้อง หรือเนื้อเยื่อหรือในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือ การไชเข้าสมองก่อให้เกิดอาการเลือดออกในสมอง สมองอักเสบ และส่งผลเสียกับร่างกายในระยะยาวได้


นอกจากนี้การกินเช่นนี้อาจจะเสี่ยงได้รับ ‘เชื้ออหิวาต์เทียม’ ที่จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย มีอาการอาหารเป็นพิษ หากรุนแรงมาก ๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย แนะให้ใช้ความร้อนทำอาหารให้สุกอย่างทั่วถึง ปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนอย่างน้อย70องศาเซลเซียส นาน2นาที

ด้าน “หมอแล็บแพนด้า” หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ ได้โพสต์เตือนการกินเมนูดังกล่าวว่า มีโอกาสเสี่ยงมีเชื้อโรคและพยาธิ โดยทางเพจระบุข้อความว่า


"กินหมึกสด ๆ หรือ'หมึกช็อต' ระวังเชื้อโรคและพยาธินะครับ ถ้าเรากินอาหารทะเลที่สด ๆ และยังไม่ได้ปรุงสุก ระวังจะเจอเชื้ออหิวาต์เทียม หรือวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เป็นโรคท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง หรือมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่น อาการพวกนี้จะเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารทะเลสด ๆ ในช่วง 12-24 ชั่วโมง


นอกจากเชื้อโรคแล้วยังมีโอกาสเจอพยาธิอะนิซาคิส (Anisakis) หน้าตาคล้าย ๆ ไส้เดือน ตัวเล็กประมาณ 2-5 ซม. พยาธิมันอาจจะชอนไชไปตามทางเดินอาหาร แล้วอยู่ในลำไส้ หลังจากได้กินพยาธิไป 1 ชั่วโมง จะมีอาการปวดท้อง ปวดกระเพาะอาหาร ลำไส้อุดตัน คลื่นไส้อาเจียน เข้าใจว่าหมึกสด ๆ มันน่าจะหวานอร่อย แต่ถ้ามันไม่สุกก็อาจจะติดเชื้อหลายอย่างได้นะครับ"

ข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : กรมอนามัย https://shorturl.asia/sexOi เพจ “หมอแล็บแพนด้า” https://shorturl.asia/146MC

เพจ "ซวยชิบหายเสือกเกิดมาอร่อย"https://shorturl.asia/wLMoT


ภาพจาก : เพจ “หมอแล็บแพนด้า” https://shorturl.asia/146MC, https://pixabay.com/