ย้อนเส้นทางชีวิตของนักแสดงสาว “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” ซึ่งถือได้ว่าผ่านความเป็นความตายมาเยอะมาก จนเธอได้ฉายาว่า“แมว9 ชีวิต”

โดยเมื่อ 14 ปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อวันที่5 เมษายน พ.ศ.2550 แตงโม นิดา เคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานถ่ายละคร ครั้งนั้นถือเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ เพราะเธอบาดเจ็บสาหัส ต้องเย็บบริเวณใบหน้ามากถึง140 เข็ม อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เธอต้องทำศัลยกรรมครั้งใหญ่

ปี พ.ศ. 2553 แตงโม นิดา ถูกสื่อคว่ำบาตร ไม่ขอสัมภาษณ์อีกต่อไป เนื่องมาจากการวีนกลางวงสัมภาษณ์ ทำให้เธอโดนแคนเซิลงาน ไม่มีงานอยู่เป็นปี สุดท้ายเธอจึงทำคลิปขอโทษ จึงกลับมามีงานอีกครั้ง

ครั้งหนึ่งแตงโมเคยได้รับฉายา 'ฝีปากไร้ตะกร้อ' เนื่องจากเป็นคนพูดจาโผงผาง และเธอก็ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบมาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อ ปี พ.ศ. 2558 แตงโม นิดา เคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว ครั้งหนึ่งเธอเคยน้อยใจพยายามทำร้ายตัวเองโดยการกินยานอนหลับเกินขนาด กรีดข้อมือ หลังหย่าขาดจากอดีตสามี ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา

ทั้งนี้แตงโมเคยเปิดเผยว่าเป็นโรคซึมเศร้าและกินยาต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี ซึ่งเธอใช้เวลารักษาตัวเองมา สุดท้ายเธอก็ก้าวผ่านมาได้ เพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ และดูแลตัวเองอย่างดี จนอาการดีขึ้นตามลำดับ

เมื่อกลางปี 2564 ที่ผ่านมา แตงโม นิดา ได้ไปออกรายการ “โหนกระแส” เปิดใจเรื่องการทำศัลยกรรมเป็นพิษจนใบหน้าผิดรูป มีหนี้สินค้างอยู่ 10 ล้านบาท เงินเก็บที่มีเหลือ 2 ล้านบาท จนต้องขายรถตู้คู่ใจ นอกจากนี้เธอยังเจอมรสุมชีวิตทั้งคุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ตัวเธอเองก็มีอาการป่วยด้วยโรคต่อมหมวกไตล้า จึงทำให้เครียดหนักมาก ทำให้อาการซึมเศร้าหนักมากขึ้น ทำให้ต้องพักงานและไม่ได้ออกไปไหนเลยร่วมปี

อีกทั้งแตงโมยังเคยไปออกรายการ “วันบันเทิง” เล่าเรื่องหมดเงินไปกับการรักษาอาการป่วยของพ่อเป็นจำนวนมาก จนต้องไปขอยืม “เอ ศุภชัย” ซึ่งทางเอ ศุภชัยก็ได้ยกหนี้สินให้กว่าครึ่งล้าน โดยเธอจะตอบแทนโดยการเล่นละครให้ฟรี

ต้องบอกว่าแตงโมเป็นคนหนึ่งที่สู้ชีวิตอย่างมาก แม้จะเจอมรสุมหนักหนาแค่ไหนก็ไม่ทำให้แตงโมย่อท้อต่ออุปสรรคเลย เรียกได้ว่าเธอเป็นนักสู้และสู้มาตลอดจริง ๆ

สำหรับ “แตงโม” เธอมีชื่อจริงว่า “นิดา พัชรวีระพงษ์” เดิมชื่อ “ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” เข้าวงการตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการที่แมวมองชวนไปแคสติ้ง และต่อมาในปี 2545 ได้เข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์ ปี2002 และได้ตำแหน่งรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 จากนั้นจึงได้เล่นละคร เรื่องแรกคือ “เบญจา คีตา ความรัก” หลังจากนั้นก็มีผลงานมากมายทั้ง ละคร ภาพยนตร์ มิวสิกวีดิโอ พิธีกร ฯลฯ ปัจจุบันแตงโมผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระ

นอกจากนี้แล้วแตงโมยังชอบทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งเธออุปการะเลี้ยงเด็ก โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเลี้ยงมาหลายรุ่น จนจบปริญญา มีครอบครัวแล้ว เธอจะทำมาเรื่อย ๆ ปีหนึ่งไม่ได้เลี้ยงแค่คนเดียว

ทั้งนี้แตงโมมีบุตรบุญธรรม 1 คน คือ น้องอีสเตอร์ ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้จัดการส่วนตัวของเธอเองอีกทั้งเธอยังทำหน้าที่เป็นวิทยากรช่วยเหลือสังคม แนะแนวทางในการใช้ชีวิตในเรื่องซึมเศร้าอีกด้วย