เรียกได้ว่าชื่อของ “ฮันโซฮี” นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ ต่างถูกพูดถึงกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ซีรีส์แนวดรามาเรื่อง The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข ได้จบลงไป เพราะด้วยความสวย ความสามารถที่น่าจับตามอง จึงไม่แปลกใจเลยที่หลายคนต่างหลงรักเธอคนนี้ไปเต็ม ๆ

หากพูดถึงการเริ่มต้นงานในวงการบันเทิงแล้วล่ะก็ “ฮันโซฮี” เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 21 ปี ด้วยการเป็นนางแบบมาก่อน และพัฒนาตัวเองเรื่อยมา กระทั่งได้โชว์ฝีมือทางด้านการแสดงในงานโฆษณา ต่อมาเธอก็ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในมิวสิกวิดีโอเพลง “Tell Me What To Do” ของศิลปินวง SHINee ในปี ค.ศ.2016 และเพลง“That Girl” ของJUNG YONG HWA ในปี ค.ศ. 2017

ด้วยความสวยและความสามารถที่โดดเด่น จึงทำให้เธอได้รับบทบาททางด้านการแสดง ประเดิมด้วยการเป็นนักแสดงสมทบในซีรีส์รักโรแมนติกเรื่อง อดีตรักพัดหวน (Reunited Worlds) ในปี ค.ศ. 2017 ได้รับบทบาทหลักในละครช่องเอ็มบีซีทีวี (MBCTV)เรื่อง ดอกไม้ป่าเงินตรา (Money Flower) ในปี ค.ศ.2017 และรัก100 วันของฉันและองค์ชาย (100 Days My Prince) ในปี ค.ศ.2018 และบทนักแสดงสมทบเรื่อง ลูกแก้วคืนวิญญาณ (Abyss) ซึ่งร่วมแสดงกับนักแสดงนำอัน ฮโย-ซ็อบ และพัก โบ-ย็อง

โดยซีรีส์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ “ฮันโซฮี” อย่างมากเลยก็คือ ซีรีส์แนวดรามาเรื่องThe World of the Married ในปี ค.ศ. 2020 เป็นซีรีส์ที่รีเมกมาจาก Doctor Foster ซีรีส์อังกฤษ ซึ่งเรื่องนี้ฮันโซฮีรับบทเป็นเมียน้อยที่เล่นได้สมบทบาทสุด ๆ และหลายคนหลงรักเธอแม้เธอจะรับบทเมียน้อยก็ตาม เพราะเธอสวยออร่ามาก ๆ โดยก่อนมารับบทบาทนี้ฮันโซฮีได้ลดน้ำหนักมากถึง 10 กิโลกรัม ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้คว้าเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์เคเบิลทีวีเกาหลีเลยทีเดียว

ชื่อของฮันโซฮีถูกพูดถึงอีกครั้งกับ Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้ ซีรีส์รักโรแมนติก ที่เธอรับบทคู่กับ ซงคัง เรื่องนี้ทำหลายคนจิ้นฟินจิกหมอนตามกันเป็นแถว เพราะพระ-นางทั้งคู่เคมีลงตัวกันสุด ๆ และประโยคที่ว่า “ไปดูผีเสื้อกันไหม...ที่บ้านฉัน” ก็กลายมาเป็นประโยคที่ฮิตสุด ๆ ในตอนนั้นไปเลย

และผลงานล่าสุดในปี ค.ศ. 2021 My Name ซีรีส์แนวแอคชั่น-นัวร์ ที่ฉีกบทบาทไปจากการแสดงเรื่องอื่นๆ เพราะเรื่องนี้เธอต้องทุ่มเทฝึกซ้อมร่างกาย ไปฝึกฝนเรียนศิลปะการต่อสู้เป็นเวลากว่า 3 เดือน และเพิ่มน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม เพื่อแสดงบทบู๊ในเรื่องนี้

นอกจากนี้เร็ว ๆ นี้ ฮันโซฮี จะมีผลงานซีรีส์เรื่อง Soundtrack No.1 ที่จะออนแอร์ทางDisney+ ในวันที่ 23 มีนาคม นี้อีกด้วย

เรียกได้ว่าฮันโซฮีเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับการแสดงเต็มที่มาก ๆ แต่กว่าจะมาเป็นฮันโซฮีเฉกเช่นทุกวันนี้ก็ไม่ง่ายเลย เพราะเธอต่อสู้ชีวิตมาไม่น้อย และช่วงหนึ่งชีวิตก็สู้กลับซะด้วยสิ โดยฮันโซฮีเคยให้สัมภาษณ์ว่า พ่อกับแม่หย่าร้างกันตอนเธอได้ 5 ขวบ เธอเติบโตมาโดยมีคุณยายเลี้ยงดู เนื่องจากแม่ต้องไปทำงานหาเงิน เธอรักคุณยายมาก ๆ เพราะคุณยายคือทั้งหมดของชีวิต และความฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงก็เกิดมาจากคุณยาย เพราะคุณยายชอบดูโทรทัศน์มาก เธอจึงอยากเข้าไปอยู่หน้าจอให้ได้ เพื่อทำให้คุณยายภูมิใจ

หลังจากเรียนจบก็ได้เดินทางจากอุลซานบ้านเกิดของตัวเอง มุ่งหน้าสู่โซลเพื่อเดินตามความฝัน มีเงินติดตัวเพียง300,000 วอน หรือคิดเป็นไทยก็ประมาณ 8,000 กว่าบาท เธอไปทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์ย่านกังนัมบางวันมีเงินติดตัวแค่หลักพันวอนเท่านั้น แต่เธอก็สู้ชีวิตมาได้จนได้มีโอกาสถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา และต่อยอดมาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในที่สุด

วันนี้ฮันโซฮีถือเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีรายงานข่าวว่าเธอได้ ซื้อวิลล่าสุดหรูในหมู่บ้านGuri Archiul มูลค่า1,950 ล้านวอน คิดเป็นเงินไทยราว 52 ล้านบาท แต่ล่าสุดกลับมีข่าวอื้อฉาวออกมาว่า แม่ของฮันโซฮีได้ไปยืมเงินจากคนรู้จักมามากถึง 85 ล้านวอน ตั้งแต่เดือน ก.พ.2018 – ก.ย.2019 และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย

“ฉันรู้เรื่องหนี้ของแม่หลังจากที่ฉันอายุ 20 ปี และฉันก็ได้ใช้หนี้ให้แม่ไปแล้วตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และเมื่อไม่นานนี้ฉันก็เพิ่งได้รู้จากคนทวงหนี้ว่าแม่ฉันใช้ชื่อฉันไปยืมเงินคนอื่นอีกและจบลงด้วยการไม่ยอมคืนเงิน มันเป็นความผิดของฉันเองค่ะที่ฉันคิดว่าเราแก้ไขได้เพียงแค่ชำระหนี้ของแม่คืนให้หมด แต่มันกลับกลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มจำนวนเหยื่อให้มากขึ้นเรื่อย ๆ”

ทั้งนี้ทางต้นสังกัดของเธอ 9ato Entertainment ก็ได้ออกประกาศถึงจุดยืนในครั้งนี้ด้วย ฮันโซฮี ไม่มีแผน ที่จะรับผิดชอบต่อหนี้สินของแม่อีกแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต