
“หลิวอี้เฟย” พา “สามบุปผาลิขิตฝัน” ซีรีส์พีเรียดพลังหญิงโกยยอดวิวพันล้านใน 2 สัปดาห์
17 มิ.ย. 2565 00:00ถ้าจะถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ซีรีส์ออนไลน์เรื่อง “สามบุปผาลิขิตฝัน” (A Dream Of Splendor) ครองใจผู้ชมจนขึ้นแท่นซีรีส์อันดับ 1 ในเวลานี้ ไม่ว่าจะยอดวิวถล่มทลายทะลุพันล้านวิวอย่างรวดเร็ว หลังปล่อยเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมทั้งยังครองเทรนด์ความนิยมเป็นที่กล่าวขวัญถึงหลายสิบล้านข้อความ แถมคะแนนรีวิวยังดีมาก ๆ ก็ต้องบอกว่านี่คืออีกหนึ่งผลงานที่ถึงพร้อมในทุกด้าน
“สามบุปผาลิขิตฝัน” เป็นเรื่องราวของหญิงสาวสามคนที่โชคชะตาพาให้ได้มาสู้ชีวิตร่วมกัน คนแรก “จ้าวพ่านเอ๋อร์” หญิงงามอดีตบุตรสาวขุนนางต้องโทษ เมื่อได้อิสรภาพจากการเป็นนางรำรับใช้จึงมาเปิดโรงน้ำชาในเมืองเฉียนถัง หาเงินส่งเสียหนุ่มคนรักที่ไปสอบขุนนางในเมืองหลวงนานสามปี แต่แล้วฝ่ายชายกลับหักหลัง เลือกแต่งงานกับลูกสาวขุนนางใหญ่แทนกลับมาแต่งงานกับเธอ
“จ้าวพ่านเอ๋อร์” สุดแค้น ตัดสินใจเข้าเมืองหลวงไปทวงความยุติธรรม พร้อมกับ “กู้เชียนฟ่าน” หัวหน้าหน่วยมหาดเล็กที่บาดเจ็บจากการสืบคดีและ “จ้าวฟานเอ๋อร์” ช่วยชีวิตเอาไว้ นอกจากนี้เธอยังได้ช่วย “ซุนซานเหนียง” เพื่อนรักที่คิดสั้นหลังถูกสามีและลูกชายทอดทิ้ง รวมทั้งช่วย “ซ่งอิ่นจาง” สาวรุ่นร้องที่ถูกหนุ่มผีพนันหลอกแต่งงานและซ้อมจนปางตาย
เพื่อจะอยู่รอดในเมืองหลวงและเปิดโปงหนุ่มคนรักใจคดที่ตอนนี้กลายเป็นขุนนางใหญ่โต “จ้าวพ่านเอ๋อร์” จึงได้เปิดโรงน้ำชาเล็กๆ โดยมี “ซุนซานเหนียง” ที่เก่งเรื่องทำขนม และ “ซ่งอิ่นจาง” ที่มีพรสวรรค์ในการเล่นผีผา เป็นกำลังสำคัญ
ผลงานเรื่องนี้ถือเป็นการคืนจอแก้วในรอบ 16 ปี ของ “หลิวอี้เฟย” นับแต่เป็น “เซียวเหล่งนึ่ง” ในซีรีส์ “มังกรหยก” (2006) และยังถือเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกนับแต่โกฮอลลีวูดไปสวมบทนางเอกหนัง “มู่หลาน” (Mulan) เวอร์ชั่นคนแสดง ดังนั้นต้องบอกว่าทั้งความงามและความเจ้าบทบาท “หลิวอี้เฟย” คนนี้มีครบจบในคนเดียว โดยในเรื่องนี้เธอสวมบท “จ้าวพ่านเอ๋อร์” เถ้าแก่เนี้ยะที่สวยแกร่งไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
นอกจากนี้ทีมนักแสดงยังร่วมด้วย “หลิ่วเหยียน” จากหนัง “ปิดหน่วยล่า คนหมาเดือด” (Badges of Fury), “หลินอวิ๋น” หรือ “เจลลี่ หลิน” นางเอกหนัง “เงือกสาว ปัง ปัง” (The Mermaid) ส่วนตัวเอกฝ่ายชายเล่นโดย “เฉินเสี่ยว” พระเอกซีรีส์ “ตำนานลู่เจิน” (2013) และซีรีส์ “มังกรหยก” (2014)
นอกจากทีมนักแสดงแล้ว ด้วยตัวบทที่ครบรสทั้งดราม่า, แอ็คชั่น, ประวัติศาสตร์, การเมือง และการค้า รวมถึงโปรดักชั่นที่อลังการสะท้อนความรุ่งเรืองในอดีตและศิลปวัฒนธรรมด้านการชงชา, ขนมน้ำชาและเครื่องดนตรีโบราณ จึงไม่น่าแปลกที่ผลงานเรื่องนี้จะขึ้นชื่อเป็นที่เลื่องลือในระยะเวลาอันสั้นหลังลงจอเพียงแค่ 2 สัปดาห์
Photo Credit : Sohu, Twitter #adreamofsplendor