
4 เหตุผลที่ต้องดู Anna หญิงสาวที่ใช้ชีวิตด้วยคำโกหกและตัวตนของคนอื่น
14 ก.ย. 2565 00:004 เหตุผลที่ต้องดู Anna หญิงสาวที่ใช้ชีวิตด้วยคำโกหกและตัวตนของคนอื่น
1. พล็อตเรื่องสนุก น่าติดตาม
Anna (2022) ดัดแปลงจากนวนิยานิยายเรื่องIntimate Stranger 친밀한이방인 ของนักเขียนจองฮันอา ว่าด้วยเรื่องราวของอียูมี (Bae Suzy/แบซูจี) หญิงสาวฉลาดแต่ขาดโอกาสในชีวิต เพราะเธอเกิดในครอบครัวร้านตัดเสื้อที่ยากจน มีแม่หูหนวกอียูมีเริ่มต้นจากโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในโรงเรียนทั้งเรื่องฐานะทางบ้าน และเรื่องครอบครัว ก่อนที่สุดท้ายเธอลงเอยด้วยการสวมรอยเป็นคนอื่น
2. มีประเด็นรองที่น่าสนใจ
ประเด็นรองที่ซีรีส์สอดแทรกมาให้เห็นตลอดทั้งเรื่องก็คือ บริบทของสังคมเกาหลีที่ชวนคนดูกำหมัดไม่น้อย อย่างที่เรารู้กันว่าสังคมเกาหลีนั้นเป็นสังคมปิตาธิปไตย หรือชายเป็นใหญ่ โดยในซีรีส์ก็มีหลายฉากให้เราได้เห็น ทั้งตอนที่อียูมีถูกคนรักหักหลัง และฉากชีวิตหลังแต่งงานของเธอ พร้อมทั้งแฝงไปด้วยค่านิยมครอบครัวในฉบับคนเอเชียเดิม ๆ ที่ลูกต้องเผชิญ ทั้งเรื่องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การแต่งงานมีครอบครัวสมบูรณ์ อีกทั้งความเหลื่อมล้ำในสังคม และการแข่งขันของสังคมชั้นสูงที่ซีรีส์ทำออกมาได้ดีมาก ซึ่งก็ทำให้หลายคนนึกไปถึงภาพยนต์รุ่นพี่อย่าง ‘Parasite’ เช่นกัน
3. เพราะเรื่องนี้มี ‘เบซูจี’ รักแรกแห่งชาติของเกาหลี
ทักษะการแสดงของซูจีก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อยากชวนให้ทุกคนได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ กับบทบาทที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ต้องบอกเลยว่า เป็นการพลิกบทบาทครั้งใหม่ของเธอเลยก็ว่าได้ ตลอดเวลาของซีรีส์ ซูจีสามารถทำให้คนดูเชื่อได้ว่า เธอคือคนที่แบกคำโกหกก้อนโตไว้ในใจได้อย่างดีเกิดคาด ชวนให้รู้สึกอัดอัด และกระอักกระอ่วนตามไปด้วยจริง ๆ ไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไร จะพูดอะไร หรือจะโกหกอะไรต่อ เธอเอาคนดูอยู่หมัดแน่นอน แถมเธอยังทุ่มทุนปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับโรคของอียูมี ตัวละครที่เธอรับบทอีกด้วย เพื่อให้เข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกและบทบาทมากยิ่งขึ้น
4. มี 2 เวอร์ชั่น
‘Anna’ ตอนนี้มีซับไทยแบบถูกลิขสิทธิ์แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถรับชมได้ในสตรีมมิ่งน้องใหม่อย่าง Amazon Prime Video โดยซีรีส์เรื่องนี้มี 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกที่ปล่อยออกมาก่อนจะมีแค่ 6 ตอน ส่วนเวอร์ชั่นที่ปล่อยมาทีหลังคือ Director’s Cut หรือเวอร์ชั่นผู้กำกับนั่นเอง โดยมีฉากสำคัญอื่น ๆ ฉากที่ถูกตัดออกจากเวอร์ชั่นเดิม ซึ่งมีทั้งหมด 8 ตอนด้วยกัน ผู้กำกับเขาการันตีว่า เต็มอิ่มแน่นนอน ซึ่งเดิมทีซีรีส์เรื่องนี้เคยถูกคิดจะสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ด้วยเวลาจำกัดน่าจะไม่พอสำหรับเนื้อหาและอีกหลายประเด็นที่ผู้กำกับต้องการสื่อ บทสรุปเลยกลายออกมาเป็นซีรีส์แทน