ชื่อของ เจนน่า ออร์เตกา (Jenna Ortega) นักแสดงชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายเม็กซิโกและเปอร์โตริโก ถูกพูดถึงอย่างมาก นับตั้งแต่ซีรีส์เรื่องWednesday ออนแอร์ เรียกได้ว่า กระแสตอบรับดีเกินคาด และกลายเป็นสาวแสบที่หลายคนตกหลุมรักไปเรียบร้อย เราจึงอยากจะพาไปทำความรู้จักกับเจนน่า ออร์เตกา ให้มากขึ้นอีกนิด ใกล้ชิดขึ้นอีกหน่อย

ลูกสาวคนกลางที่รักการแสดงตั้งแต่ 6 ขวบ

เจนน่า ออร์เตกา (Jenna Ortega) เป็นลูกสาวคนกลางจากครอบครัวเชื้อสายเม็กซิกันเปอโตริโก เธอมีพี่น้องทั้งหมด 6 ด้วยกัน ออร์เตกาเกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2002 ปัจจุบันอายุ 20 ปี อาศัยอยู่ที่โคอาเชลลา แวลลีย์ (Coachella Valley) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เด็ก

ออร์เตกา เริ่มเข้าวงการด้วยการเป็นนักแสดงเด็ก ด้วยความหลงใหลที่เธอค้นพบในวัย 6 ขวบ จากการแสดงของดาโกตา แฟนนิ่ง ในภาพยนตร์เขย่าขวัญเรื่อง Man on Fire ในปี 2004

"หลังจากดูดาโกต้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เธอมีพรสวรรค์มาก ฉันตัดสินใจว่าอยากจะเป็นแบบดาโกตา แฟนนิง แห่งเปอร์โตริโกให้ได้”

เธอเริ่มวิ่งออดิชั่นตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ด้วยแรงสนับสนุนจากผู้เป็นแม่ แม้จะเริ่มต้นด้วยบทเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเป็นแขกรับเชิญซีรีส์อเมริกัน Rob ในตอน Baby Bug เมื่อปี 2012 และปรากฏตัวอีกครั้งในปีเดียวกันใน CSI:NY ในตอน Unspoken

แต่ถึงอย่างนั้น ความฝันในการเป็นนักแสดงก็ต้องแลกมากับการลาออกจากโรงเรียนในชั้น ม.2 เธอต้องพลาดประสบการณ์ดี ๆ ในโรงเรียนมัธยมอย่างปฏิเสธไม่ได้

อยู่ใต้ชายคาดิสนีย์

ออร์เตกามีผลงานทั้งซีรีส์และภาพยนต์ทั้ง Days of Our Lives (2013), Iron Man 3 (2013) Rake (2014), The Little Rascals Save the Day (2014), Jane the Virgin (2014–2019), Richie Rich (2015)

ความสามารถของเธอฉายแววโดดเด่น จนกระทั่งอายุ 10 ขวบ เธอก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับดิสนีย์ ในบทบาท ‘ฮาร์ลีย์ ดิแอซ’ (Harley Diaz) จากซีรีส์ ‘Stuck in the Middle’ (2016–2018) และนั่นก็กลายเป็นบทบาทที่เปลี่ยนชีวิตเธอ ออร์เตกาได้รับการตอบรับอย่างดี และส่งผลให้เธอคว้ารางวัล Imagen Award ในปีเดียวกัน

นอกจากนั้นเธอยังได้พากย์เสียงเป็น ‘เจ้าหญิงอิซาเบล’ ในเรื่อง Elena of Avalor อนิเมชันของค่าย Disney ซึ่งถือเป็นเจ้าหญิงละตินคนแรกของดิสนีย์อีกด้วย

ราชินีเสียงกรี๊ดวัย 20

ออร์เตกา ออกจากชายคาดิสนีย์ก่อนเดินทางสู่วงการหนังสยองขวัญ โดยเรื่องแรกคือภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Insidious: Chapter 2 ในปี 2013 ตามด้วย You 2 (2019)’, The Babysitter: Killer Queen (2020), Scream (2022), Studio 666 (2022), และX (2022) จนได้รับฉายา ‘Scream Queen’ หรือ ‘ราชินีเสียงกรี๊ด’ เลยทีเดียว

ออร์เตการู้สึกว่า การได้รับบทที่หลากหลายมากขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอ ซึ่งบทสยองขวัญเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกสบายใจที่สุด และเธอค่อนข้างพอใจกับการแสดงเหล่านั้น

และด้วยฝีมือการแสดงที่เกินความสามารถของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นั่นทำให้เธอกลายเป็น1 ในนักแสดงสาวที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้

Wednesday ในแบบฉบับของออร์เตกา

และล่าสุดราชินีเสียงกรี๊ดก็ปิดจ็อบของปี 2022 ให้กับแฟนหนังสยองขวัญด้วยซีรีส์ Wednesday จากคอมิก ‘The Addams Family’ ในบทบาทของ Wednesday ลูกสาวคนโตสุดมืดมนที่ได้ทิม เบอร์ตัน ตัวตึงแห่งวงการดาร์กแฟนตาซีโกธิค มาเป็นผู้เขย่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ร่วมสมัยมากขึ้น แถมแทรกด้วยการสืบสวนฝึกสมองนั่นเอง

และอย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ภาพจำของ Wednesday สำหรับคอหนังส่วนใหญ่แล้วก็คงหนีไม่พ้น การแสดงที่คริสตินา ริชชี (Christina Ricci) เคยฝากไว้ใน The Addams Family (1991) ที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลายคนต่างยกย่องฉบับของคริสตินา ไม่เว้นแม้แต่ออร์เตกาเอง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็สามารถสร้างWednesday ในแบบฉบับของตัวเอง และสมบูรณ์แบบที่สุด ณ เวลานี้

ออร์เตกาต้องปรับบุคลิก การพูดตามจังหวะ การแสดงออก และการเดินของตัวละคร พร้อมผมหน้าม้าและทำผมสีดำอีกด้วย

“ฉันคิดว่า มันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับผู้ชมและสำหรับตัวฉันเองก็เช่นกัน” ออร์เตกาให้สัมภาษณ์

นอกจากนั้น เธอยังทุ่มเทด้วยการเข้าเรียนฟันดาบ เรียนเชลโล่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เรียนยิงธนู และเรียนภาษาเยอรมันเพื่อทำให้ให้ Wednesday สมบูรณ์แบบมากที่สุด

การแสดงของเธอในซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เธอได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก โดยนักวิจารณ์บางส่วนเห็นว่า นี่เป็นการแสดงตัวละครที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จนส่งผลให้เธอได้รับตำแหน่ง "นักแสดงประจำสัปดาห์" โดย TVLine ในเดือนธันวาคม 2022

โดยเธอได้เปิดเผยเรื่องราวสุดตลกหลังซีรีส์ออนแอร์ว่า ในวันออดิชั่น หน้าของเธอเต็มไปด้วยเมคอัพสุดสยอง และ ทิม เบอร์ตัน ก็ชอบมันอย่างมาก

"มันตลกดีนะ เพราะตอนที่ฉันได้พบกับทิม เบอร์ตันในการออดิชั่นบท ฉันเพิ่งแสดง [ฉากการตายของฉันในหนังเรื่อง X] ดังนั้น ฉันจึงมีเลือดออกและมีบาดแผลขนาดใหญ่บนใบหน้า ที่ใช้เวลาเมคอัพตั้ง 24 ชั่วโมงเลยนะ พอฉันเข้าไปใน Zoom เขาก็หัวเราะจริง ๆ มันทำให้ฉันขำ ฉันคิดว่า มันน่ารักดี"

เด็กสาวใจบุญ

ไม่เพียงแค่เสน่ห์ด้านการแสดงที่ปรากฏในจอ เพราะนอกจอ อออร์เตกายังเป็นนักแสดงที่ส่งเสริมและสนับสนุนประเด็นสังคมหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผู้อพยพและการเมือง การสนับสนุน Pride Over Prejudice ซึ่งเป็นแคมเปญเกี่ยวกับ LGBT โดยเธอสนับสนุนองค์กรนี้ตั้งแต่เธออายุ 13 ปี นอกจากนั้นเธอยังสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานและต่อต้านการเลือกปฏิบัติอีกด้วย

"การยอมรับวัฒนธรรมในทุกวันนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีเชื้อชาติที่แตกต่างกันมากมายในอเมริกา สุดท้ายแล้ว คุณก็คือคุณ คุณต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้คนอื่นรู้สึกสบายใจได้"

บ่อยครั้งที่ออร์เตกาจัดงานมีทแอนด์กรีทสำหรับแฟน ๆ เพื่อหาเงินบริจาคให้กับเด็กสาวที่เป็นมะเร็ง รวมถึงการไปเยี่ยมเด็กผู้อพยพที่อยู่บ้านโดยไม่มีครอบครัว และการปรากฏตัวในคอนเสิร์ต WE Day ทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาหลายครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อองค์กรการกุศล WE อีกด้วย

ปัจจุบัน ‘Wednesday’ สามารถสร้างสถิติยอดชมสัปดาห์แรกสูงยอดชมมากกว่า 400 ล้านชั่วโมงใน 1 สัปดาห์ โดยอยู่ในอันดับที่ 3 ของซีรีส์ภาษาอังกฤษบนแพลตฟอร์ม Netflix ที่มียอดการชมสูงสุดตลอดกาล

ตามหลังรุ่นพี่ ‘Stranger Things ซีซัน 4’ ที่อยู่ในอันดับที่ 1 และ ‘Dahmer –Monster:The Jeffrey Dahmer Story’ ที่อยู่ในอันดับที่ 2 โดยมีการคาดการณ์ว่า ออร์เตกาจะสามารถพา ‘Wednesday’ ทำยอดการชมแซงขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ได้ในเร็ว ๆ นี้

Instagram :@jennaortega