MENU

รู้จัก “เทคบอล” กีฬาใหม่มาแรง ที่ไทยมีโอกาสไปได้ไกลถึงแชมป์โลก!

 9 ม.ค. 2566 00:00

เทคบอล (Teqball) กีฬาฟุตบอลน้องใหม่มาแรง ที่เป็นการผสมผสานระหว่างการเล่นหลายรูปแบบ ทั้งฟุตบอล เซปักตะกร้อ และปิงปองเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งล่าสุดทีมชาติไทยก็เพิ่งเอาชนะบลาซิล และก้าวขึ้นสู้อันดับโลกได้สำเร็จ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกีฬาน้องใหม่ชนิดนี้กัน


โดยเทคบอล กำลังดังมากในยุโรป ขณะที่เทคบอลของไทย เพิ่งเริ่มเมื่อปี 2563 แต่ช่วงเวลาเพียง 2 ปี ไทยก็สามารถก้าวขึ้นไปติดอันดับโลกได้ในเบอร์สิบต้น ๆ จนทั้งโลกต้องตกตะลึง และทึ่งในความสามารถของคนไทยกับการเล่นกีฬาชนิดนี้

เทคบอล (Taqball) ถูกคิดค้นในปี 2012 จากชายชาวฮังการี 3 คน ที่ชื่นชอบในการเล่นฟุตบอล Gábor Borsányi อดีตนักกีฬาอาชีพที่เขาเคยเล่นฟุตบอลบนโต๊ะปิงปอง จากความเบื่อหน่ายในการเล่นแบบเดิมๆ แต่เขาก็พบว่าหากจะเล่นลูกบอลบนโต๊ะให้สนุก จำเป็นต้องสร้างโต๊ะโค้งแบบพิเศษขึ้นมา เพื่อให้ลูกบอลกระดอนเข้าหาฝ่ายตรงข้ามได้ Gábor จึงชวนเพื่อนอีก 2 คนอย่าง György Gattyán และ Viktor Huszár ที่เป็นนักธุรกิจ และวิศวะกรคอมพิวเตอร์ มาร่วมกันสร้างกีฬาชนิดใหม่นี้ขึ้นมา


โดยโต๊ะของเทคบอล จะมีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากกีฬาชนิดอื่นๆ ด้วยความยาว 3 เมตร กว้าง 1.7 ม. โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่ 0.76 ม. ตรงกลางของโต๊ะติดตั้งแผ่นกระจกที่เป็นเหมือนเน็ตเอาไว้ เพื่อแบ่งแยกเขตของผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย ขนาดของคอร์ทเทคบอล ที่ใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการต้องมีความกว้างอย่างน้อย 12 เมตร ยาวอย่างน้อย 16 เมตร และสูงอย่างน้อย 7 เมตร


ตัวสนามจะต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีขอบล้อมรอบโดยมีความสูงขั้นต่ำ 500 มม. และความสูงสูงสุด 1,500 มม. ส่วนโต๊ะ Teq อยู่ตรงกลางคอร์ท ที่เน็ตต้องขนานกับเส้นรอบวงของด้านที่สั้นกว่า

ในส่วนของลูกบอล จะใช้ลูกฟุตบอลขนาด5ซึ่งมีความกดดันต่ำกว่าลูกฟุตบอลทั่วไป ทำให้เด่งได้ดี ส่วนกติกาการเล่นก็คล้ายๆกับกีฬาที่มีเน็ตชนิดอื่นๆ ทั้งแบดมินตัน หรือปิงปอง ที่มีกติกาดังนี้


1.นักกีฬาต้องเสิร์ฟลูกหลังเส้นเสิร์ฟที่กำหนด โดยมีระยะห่างจากขอบโต๊ะ 2 เมตร ห้ามเหยียบเส้นและห้ามกระโดด


2.เปลี่ยนฝ่ายเสิร์ฟทุก ๆ 4 คะแนน


3.การเสิร์ฟบอลไปสัมผัสกับเน็ตกลางโต๊ะ หรือเสิร์ฟไปสัมผัสกับมุมขอบโต๊ะของฝ่ายตรงข้าม ต้องทำการเสิร์ฟใหม่

4.การเสิร์ฟแต่ละแต้ม สามารถเสิร์ฟได้ 2 ครั้ง หากเสิร์ฟล้มเหลวทั้ง 2 ครั้ง ถือว่าเสียคะแนนในแต้มนั้นทันที


5.ในหนึ่งเทิร์นนักกีฬาสามารถสัมผัสลูกบอลได้ไม่เกิน 3 ครั้ง โดยภายใน3ครั้งนี้ ต้องห้ามใช้ร่างกายซ้ำส่วนเดิม โดยส่วนของร่างกายที่กำหนดไว้ตามกติกาสากลแบ่งออกเป็น 9 ส่วน ได้แก่ ศีรษะ ไหล่ซ้ายไหล่ขวา หน้าอก หลัง ขาซ้าย (หน้าขา-หัวเข่า) ขาขวา เท้าซ้าย (หัวเข่าลงไป) เท้าขวา


6.ในระหว่างการแข่งขันหากลูกบอลตกไปโดนกับมุมหรือเหลี่ยมขอบโต๊ะของฝ่ายตรงข้าม จะถือว่าเป็นโมฆะ ให้เริ่มเล่นในแต้มนั้นใหม่อีกครั้ง


7.หากมีการส่งลูกบอลข้ามแดนโดยใช้อวัยวะส่วนเดิมซ้ำ 2 ครั้งในแต้มเดียวกัน ถือว่าเป็นการฟาล์ว เช่น หากส่งข้ามแดนครั้งแรกด้วยส่วนหัว แล้วฝ่ายตรงข้ามโต้บอลกลับมา การส่งบอลข้ามแดนด้วยส่วนหัวอีกครั้ง ถือว่าเป็นการฟาล์ว

8.ในระหว่างการแข่งขัน ถ้านักกีฬาสัมผัสโดนโต๊ะถือว่าฟาล์ว


9.การแข่งขันเป็นการนับคะแนนแบบแรลลี่พอยท์ 2 ใน 3 เซ็ต เซ็ตละ 12 คะแนน ไม่มีดิวซ์


10.ยกเว้นการแข่งขันในเซ็ตที่ 3 หากคะแนนเสมอกันที่ 11 ต่อ 11 คะแนน ต้องทำการดิวซ์ เป็นระยะห่าง 2 คะแนน จบไม่เกิน 17 คะแนน


ซึ่ง Taqball ก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี 2014 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักกีฬาทั่วโลก เพราะกติกาการเล่นที่เรียบง่าย แต่มีชั้นเชิง มีความเท่าเทียมทางเพศ ไม่จำกัดว่าต้องแข่งกับเพศเดียวกันเท่านั้น และที่สำคัญคือความใสสะอาดในการเล่น เพราะห้ามไม่ให้มีการสัมผัสโต๊ะแข่งขัน หรือห้ามแตะต้องร่างกายกันระหว่าง 2 ทีม ทำให้ปลอดภัยต่อการบาดเจ็บและป้องกันการเล่นไม่ซื่อได้อย่างดี โดยจะมีทั้งการแข่งแบบเดี่ยว 2 คน และแบบทีม 4 คน คล้ายๆกับ แบดมินตัน หรือเทนนิสนั่นเอง ซึ่งในปี 2017 เทคบอลก็มีการจัดแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งแรก และมีเหล่าทีมชาติเข้าร่วมกว่า 20 ประเทศ

ภาพประกอบจากสมาคมกีฬาเทคบอลแห่งประเทศไทย Teqball Association of Thailand https://web.facebook.com/TeqballAssociationofthailand