The Last of Us ซีรีส์ที่สร้างจากเกมดัง และได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้ ที่นอกจาก เพโดร ปาสคาล ผู้รับบท โจล มิลเลอร์ จะเป็นที่พูดถึงมาก ๆ แล้ว เจ้าของบทเอลลี่อย่าง เบลลา แรมซีย์ ก็ถูกชื่นชมมากไม่แพ้กัน แม้ช่วงแรกจะมีกระแสต่อต้านไม่น้อย เพราะหน้าตาของเธอไม่คล้ายตัวละครต้นฉบับจากในเกม แต่เบลลา แรมซีย์ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การแสดงที่สามารถดึงเสน่ห์ เอกลักษณ์ และหัวใจของตัวละครออกมาได้นั้น สำคัญกว่าหน้าตาเป็นไหน ๆ ดังนั้น วันนี้เราจึงจะพาทุกคน ไปรู้จักนักแสดงสาวคนนี้ให้มากขึ้นกัน

เบลลา แรมซีย์ เธอเป็นชาวอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2003 ในเมืองนอตทิงแฮม เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จากการได้แสดงละครเวทีกับคณะนักแสดงท้องถิ่นร่วมกับพี่สาวของเธอ และก็เหมือนนักแสดงมากฝีมือหลาย ๆ คน ที่เริ่มไปต่อกับการศึกษาในโรงเรียนสอนการแสดง ที่จะเป็นจุดบ่มเพาะการแสดงให้กับเธอ

ในขณะที่เธออายุได้เพียง 11 ขวบ เบลลา ได้รับโอกาสในการออดิชั่นในซีรีส์ดังอย่าง Game of Thrones โดยบทที่เธอได้รับก็คือ ลีอานนา แห่งตระกูลมอร์มอนต์ เลดี้แห่งเกาะหมีที่แม้จะอายุน้อย แต่กลับมีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก ซึ่งเบลลาก็สามารถแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม จนส่งผลให้เธอได้รับบทนี้ไป ทั้งๆที่ตอนนั้นเธอยังไม่รู้จัก Game of Thrones หรือหนังสือ Fire & Blood เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ได้พี่สาวคอยแนะนำให้

ด้วยสีหน้าแววตาดูไม่ธรรมดา กับการแสดงอันน่าจดจำ ทั้ง ๆ ที่เป็นผลงานแรกอย่างเป็นทางการของเธอ จนถูกใจโปรดิวเซอร์ผู้สร้างเป็นอย่างมาก จากเดิมที่บท ลีอานนา มอร์มอนต์ ต้องปรากฏตัวเพียงแค่ซีนเดียวใน Ep.7 ของซีซั่น 6 แต่เพราะตัวเบลลาที่สามารถตีความตัวละครประกอบตัวนี้ให้มีมิติ ก็ทำให้ผู้สร้างเห็นศักยภาพของเธอ จึงเขียนบทให้เธอได้ไปต่อในซีซั่น 7 และ 8 ทั้ง ๆ ที่หนังสือยังเขียนไม่ถึง ก่อนจะมอบบทสรุปที่กล้าหาญมาก ๆ ให้เลดี้ตัวน้อยคนนี้

ในตอนแรกที่เบลลาเข้ามาแสดงในซีรีส์ Game of Thrones เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่เธอไม่สามารถบอกใครได้นอกจากคนในครอบครัว ว่าเธอได้แสดงร่วมในซีรีส์อันดับ 1 ของโลก และเธอก็คิดมาตลอดว่าผู้ชมจะต้องเกลียดตัวละครตัวนี้แน่ ๆ เพราะด้วยความมั่นหน้า นิสัยหยาบคาย แก่แดด แถมปฏิเสธจะช่วยซานซ่า และจอน สโนว์ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่กลับกัน เมื่อซีรีส์ออกฉาย ทุกคนต่างชื่นชมการแสดงของเธอ และตัวละครลีอานนา มอร์มอนต์ ก็กลายเป็นขวัญใจแฟน ๆ จากเพราะความเป็นเด็ก แต่มีบุคลิกเหมือนผู้ใหญ่ ฉลาดและกล้าหาญนั่นเอง

ในปีถัดมา เธอก็ได้รับบทที่แตกต่างกันสุดขั้ว กับการรับบทนำครั้งแรกในซีรีส์โรงเรียนแม่มด The Worst Witch ที่เธอรับบทเป็น Millie แม่มดน้อยที่มีความสดใสร่าเริง ตรงข้ามกับ ลีอานนา มอร์มอนต์ แบบสุดขั้ว แต่ก็มีบทดราม่าที่ท้าทายการแสดงเช่นกัน ซึ่งการแสดงของเธอในครั้งนี้ ยังส่งให้เธอได้รับรางวัล นักแสดงเด็กยอดเยี่ยมบนเวที BAFTA อีกด้วย เบลลาได้แสดงในซีรีส์ The Worst Witch ถึง 3 ซีซั่น ก่อนที่เธอจะถอนตัวไปในซีซั่น 4 เพื่อไปรับบทที่จริงจังกว่า และทางผู้สร้างก็ได้เปลี่ยนให้ Lydia Page มารับบท Millie แทน แต่กลับไม่ได้รับความนิยมจนต้องตัดจบไปในซีซั่น 4

ความสามารถของ เบลลา แรมซีย์ ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะนอกจากการแสดงแล้ว เธอยังมีผลงานพากย์เสียง และร้องเพลงประกอบในอนิเมชั่นเรื่อง Hilda และ Princess Emmy สามารถเล่นกีตาร์ได้ และเตะฟุตบอลได้ดีไม่แพ้เด็กผู้ชาย เบลลายังเป็นนักให้คำปรึกษาของมูลนิธิ YoungMinds สำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เพราะเธอเคยป่วยเป็นโรค Anorexia (หรือโรคคลั่งผอม) และมีอาการ Eating Disorder หรือพฤติกรรมการกินผิดปกติอยู่ 2 ปี แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัว ทำให้เธอหายจากโรคเหล่านี้ได้ เธอจึงอยากนำประสบการณ์มาช่วยรักษาเด็กคนอื่นนั่นเอง

ชื่อเบลลา แรมซีย์ ดูเหมือนจะหายจากงานกระแสหลักไปพักหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ 11 ก.พ. 2021 ทาง HBO ก็ได้ประกาศว่าเธอจะได้รับบทเป็น เอลลี่ ใน The Last of Us นั่นทำให้ชื่อ เบลลา แรมซีย์ กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยตอนแรกโปรเจคนี้ตั้งใจจะทำเป็นหนังฉายโรง และเล็งตัว เมซี วิลเลี่ยมส์ (อาร์ยา สตาร์ค ใน Game of Thrones) เอาไว้ โดยไม่มีเบลลาในตัวเลือกแต่อย่างใด แต่ด้วยเวลาในการพัฒนาโปรเจคที่ล่าช้า บวกกับการที่ เมซี วิลเลี่ยมส์ อายุเพิ่มมากขึ้นจนดูจะเกินไปสำหรับบทนี้ เมื่อทางผู้สร้างตัดสินใจเปลี่ยนจากหนังให้เป็นซีรีส์แทน ทีมงานจึงต้องออกตามหาผู้ที่จะมารับบทเอลลีกันใหม่

ในการหานักแสดงมาเล่นบทเอลลีใน The Last of Us นั้นท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการและมีความซับซ้อนทางด้านอารมณ์สูง เป็นเด็กอายุ 14 ที่เติบโตในโลกที่ล่มสลาย เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อสุดอันตราย และสังคมที่โหดร้าย ผู้ที่จะมารับบทนี้จึงต้องเล่นได้หลายอารมณ์ มีความอ่อนแอ แต่ต้องฉลาด ไหวพริบดี และมีความหัวดื้ออยู่ไม่น้อย ซึ่งมันช่างตรงกับบุคลิกของเบลลา แรมซีย์ สุด ๆ แถมเธอยังสามารถร้องเพลง และเล่นกีตาร์ได้เหมือนในเกมอีกด้วย เรียกได้ว่าเธออาจเกิดมาเพื่อรับบนี้ก็เป็นได้

แต่ด้วยความที่เกมต้นฉบับดังมาก และสังคมเกมเองก็มีคนหลากหลายประเภท ทันทีที่ HBO ประกาศนักแสดงออกมา เธอก็ถูกวิจารณ์ในทันทีว่าหน้าตาบุคลิกไม่เหมือนในเกม แถมเธอยังเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Jimmy Kimmel Live อีกด้วยว่าเธอไม่เคยเล่นเกมมาก่อน เคยแต่ดูคนอื่นเล่นบนยูทูป ก็ยิ่งทำให้หลายคนไม่ไว้ใจการแสดงของเธอเข้าไปอีก แต่เบลลา แรมซีย์ ก็ไม่ได้ทำใครผิดหวัง แม้จะต้องแสดงประกบ เพโดร ปาสคาล นักแสดงมาแรงแห่งยุค (ทั้งคู่แสดงใน Game of Thrones เหมือนกัน แต่ไม่เคยแสดงร่วมกัน) แต่เธอก็แสดงได้อย่างโดดเด่น และเป็นที่พูดถึงในทุก ๆ ตอน ทั้งบทดราม่า แอ็คชั่น หรือหวาดกลัว แถมยังพูดสำเนียงอเมริกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า เธอคนนี้คือนักแสดงดาวรุ่งของวงการ และต้องอนาคตไกลอย่างแน่นอน

........................................................

ผู้เขียน : นันทิภาคย์ กิตติคุณปกรณ์