'Do more with Less' โมเดลธุรกิจใหม่ของยักษ์ใหญ่วงการไอที
12 พ.ค. 2566 00:00ซีเอ็นบีซี ชี้ หลายบริษัทเทคโนโลยี โดยเฉพาะ 5 ยักษ์ใหญ่บิ๊กเทคของโลก ต่างมีแผนที่จะโฟกัสแผนงานบนแนวคิด 'Do more with Less' หรือ 'ลงมือทำให้มากขึ้น ภายใต้การใช้ทรัพยากรที่น้อยลง' ซึ่งเห็นได้ชัดเจน หลังบริษัทเทคเสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2023 ท่ามกลางการพร้อมใจกันรัดเข็มขัด ปรับลดตำแหน่งงาน และยุบแผนกที่ไม่ก่อเกิดรายได้
ทั้งหมดยังมีแนวโน้มเพิ่มงบลงทุนใน 2 area ที่มีอนาคตสดใส ทั้ง AI และบริการ Cloud ไม่เว้นแม้แต่ Meta ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนเส้นทางการลงทุน หันมาใส่ใจการนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนา ประสิทธิภาพการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มรายได้ หลังบริษัทสูญสิ้นงบมหาศาลไปกับการปลุกปั้น Metaverse
ซึ่งเราก็ได้ทำการรวบรวมโมเดลธุรกิจใหม่ ที่เหล่า 5 บริษัทระดับบิ๊กของโลกได้นำไปปรับใช้แล้ว
1. Alphabet
บริษัทแม่ของ Google อย่าง Alphabet ได้ทำการปรับปรุงกระบวนการลดต้นทุนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ลดอัตราการรับพนักงานใหม่ ตัดงบประมาณท่องเที่ยวและความบันเทิง หยุดการก่อสร้างออฟฟิศบางแห่ง และลดการลงทุนในโครงการทดลองต่าง ๆ ของ Area 120 หรือห้องวิจัยภายในของ google
ซึ่งจะนำทรัพยากรไปใช้กับส่วนสำคัญแทน เช่น การพัฒนาระบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์หรือ Ai ฮาร์ดแวร์ YouTube และ Search Engines อย่าง Google ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ได้ประกาศแผนที่จะ "ทำให้บริษัทมีประสิทธิผลมากขึ้น 20%" เมื่อปีที่แล้ว
2. Microsoft
ผู้บริหารของ Microsoft ได้กล่าวถึงแผนในอนาคตของบริษัทไว้ว่า พวกเขาจะให้ความสำคัญกับธุรกิจคลาว์ดมากขึ้น รวมถึงยังคงสนับสนุนการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI)ที่ใช้งบประมาณไปถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัท OpenAI โดยพวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าระบบนี้จะต้องมาแทนที่การค้นหาแบบเดิม ๆ และยังนำ Ai มาใช้กับ Bing, Microsoft Edge และระบบ Windows อีกด้วย
ซึ่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Microsoft ประกาศลดพนักงานกว่า 10,000 ตำแหน่ง ที่คิดเป็น 5%ของพนักงานทั้งหมด โดยทางผู้บริหารได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้มากยิ่งขึ้น
3. Amazon
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Amazon ได้ลดพนักงานลงถึง 27,000 คนในแผนกต่าง ๆ รวมถึง Amazon Web Services , Twitch, ฝ่ายอุปกรณ์, ฝ่ายโฆษณา และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังตัดงบประมาณสำหรับโครงการทดลอง เช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ส่งของ เป็นต้น
แม้จะมีมาตรการลดต้นทุน แต่ Amazon ก็ลงทุนไปมากกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ และความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) พวกเขาใช้ประโยชน์จาก AI ในแง่มุมต่าง ๆ ของธุรกิจ รวมถึงในร้านค้า การโฆษณา อุปกรณ์ และความบันเทิง บริษัทยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ชิป ศูนย์ปฏิบัติการตามพื้นที่ต่างๆ และการพัฒนาธุรกิจที่ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถปรับแต่งโมเดล AI ของ Amazon ตามความต้องการได้
4. Apple
แม้ว่าจะทำรายได้ลดลง 3% หากเทียบกับปีก่อน ซึ่ง Apple ระบุว่าการลดลงนี้เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาค และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของ iPad และ Mac รวมถึงส่งผลกระทบไปถึงโฆษณาและเกมมือถืออีกด้วย แต่ Apple มีความมั่นคงกว่าบริษัทอื่น ๆ มาก ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ มีการปลดพนักงานแต่ Apple ยังคงรักษาพนักงานเอาไว้ แม้ว่าจะผ่านช่วง Covid-19 และการขาดแคลนชิปมาก็ตาม
ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา Apple ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น เลื่อนเวลาโบนัส เลื่อนการผลิตโครงการที่สำคัญน้อยกว่า ลดงบประมาณการเดินทาง และหยุดจ้างงานชั่วคราวในบางแผนก ขั้นตอนเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
5. Meta
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Mark Zuckerberg CEO ของ Meta ประกาศว่า ปี 2023 จะเป็น "ปีแห่งประสิทธิภาพของบริษัท" หลังจากที่ราคาหุ้นของ Meta ลดลงอย่างมาก ขาดทุนไปถึง 3.99 พันล้านดอลลาร์ในการลงทุน Metaverse โดยสูญเสียมูลค่าถึงสองในสามในปี 2022 เลยทีเดียว
และเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ Meta ได้ทำการปลดพนักงานลง 21,000 ตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และดำเนินการชะลอการจ้างงานลง แม้จะมีมาตรการเหล่านี้ออกมา แต่ Mark Zuckerberg ก็ยังคงเน้นย้ำถึงการลงทุนของบริษัทในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่ง Meta เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใน ประสิทธิภาพการโฆษณา เครื่องมือแนะนำสำหรับฟีด และ Reels แต่ Zuckerberg ยืนยันอีกครั้งว่า Meta ได้ทำงานเกี่ยวกับ AI และ Metaverse มาหลายปีแล้ว และจะจัดลำดับความสำคัญของทั้งสองด้านต่อไป
----------------------------------------------
ที่มา : https://www.cnbc.com/2023/05/11/techs-new-business-model-do-more-with-less-.html