‘นครมูเบอร์เกอร์’ เบอร์เกอร์สายมู สร้าง ‘มูลค่า’ ด้วย ‘คุณค่า’ ความเป็นไทย

9 ส.ค. 2566 00:00

เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์อีกหนึ่งอย่างของไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ “เบอร์เกอร์สายมู” ที่หยิบจับเอาเบอร์เกอร์มาควบคู่กับการสักยันต์ที่โดดเด่นของไทย ผสมผสานจนเกิดแบรนด์ “นครมูเบอร์เกอร์" ซึ่งผู้ก่อตั้งก็คือคุณบาส-กวินพัฒน์ สุทธิภัทรวนันต์ และ คุณบิว -ไอชญาณ์ สุทธิภัทรวนันต์

โดยคุณบาสเล่าว่า ก่อนจะมาสร้างแบรนด์ "นครมูเบอร์เกอร์" คุณบาสทำงานอยู่ใน ทางด้านการตลาดครีเอทีฟเกี่ยวกับโฆษณาและสื่อต่าง ๆ มาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากรบรรยายตามสถาบันต่าง ๆ ด้วย ส่วนคุณบิวเป็นเซลล์มาก่อน โดย "นครมูเบอร์เกอร์" เป็นการทำธุรกิจส่วนตัวครั้งแรกของทั้งคู่

คุณบาสเล่าต่อว่า เหตุเกิดจากที่อยากจะทำอาหารอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าพูดถึงอุตสาหกรรมอาหาร เราจะพูดถึงแค่รสชาติอาหาร ความอร่อย แต่ โควิด-19 ทำให้เรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้เราสามารถออกจากกรอบเดิม ๆ ได้ แล้วจะทำยังไงให้อาหารมีคุณค่ากับจิตใจมนุษย์ได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ "นครมูเบอร์เกอร์"

สิ่งที่คุณบาสคำนึงถึงอย่างแรกคือ ความอร่อยที่เป็นพื้นฐานของอาหาร แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือเรื่องคุณค่าของอารมณ์ที่เป็นหัวใจของ "นครมูเบอร์เกอร์"

“เราหันมาสนใจเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของไทยนำมาเป็นตัวสร้างมูลค่าให้กับ "นครมูเบอร์เกอร์" และมีคุณค่ากับชีวิตมนุษย์ด้วย เรายกระดับอาหารไทยสู่นานาชาติ เราเลยนำตัวอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็น อาหารภาคเหนืออย่างข้าวซอย อาหารภาคกลางอย่างต้มยำ ภาคใต้ก็จะมีคั่วกลิ้ง เอาเอกลักษณ์ของแต่ละภาคมาพรีเซนต์ผ่านเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นสื่อกลางที่ทั่วโลกยอมรับ”

“นครมูเบอร์เกอร์ จะมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครและแตกต่างจากเบอร์เกอร์ทั่วโลก คือ ซอฟต์พาวเวอร์เรื่องลายสักยันต์ของไทย เป็นการอวยพรในสไตล์แบบไทย เราจึงสนใจที่จะนำมาพรีเซนต์ให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่าซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมีดี และตอนนี้ก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งซูเปอร์สตาร์ชื่อดังหลายคนก็บินมาสักที่ไทย ซึ่งซอฟต์พาวเวอร์ตรงนี้น่าสนใจมากและยังไม่มีใครในโลกนี้เคยทำ และ"นครมูเบอร์เกอร์" จะเป็นเจ้าแรกที่ทำครับ” คุณบาสกล่าว

นอกจากนี้คุณบิว ได้เสริมเพิ่มเติมเรื่องลายยันต์ว่า ได้อาจารย์ที่เป็นหลานของท่านอาจารย์วรา ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเขียนยันต์อยู่แล้วตามอักขระโบราณที่ถูกต้องเขียนขึ้นให้ และได้ทำพิธีปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษคือ ได้รับเมตตาจากสมเด็จเจ้าคุณธงชัยช่วยเจิมยันต์เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ซึ่งทางแบรนด์ได้จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

ส่วนวิธีการสั่งซื้อเบอร์เกอร์นั้น ทางร้านจะให้ลูกค้าเลือกรสชาติเบอร์เกอร์ ต่อจากนั้นเลือกลายยันต์ที่อยากได้ ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ 1. รุ่นคงกระพันชาตรี จะเสริมในเรื่องสุขภาพ แคล้วคลาดปลอดภัย 2. รุ่นโคตรรวย โคตรรทรัพย์ เสริมในเรื่องการงาน การเงิน และ 3. รุ่นเมตตามหานิยม เสริมในเรื่องการงาน ความรัก โดยก่อนรับประทานนั้นทางร้านจะแนะนำให้ลูกค้าขอพร และทางร้านก็จะสวดบทสวดให้ หรือลูกค้าจะสวดเองเพิ่มเติมได้เช่นกัน

“ไม่คิดว่ากระแสจะดีเกินคาดขนาดนี้ ซึ่งสื่อต่างชาติก็นำเรื่องราวของเราไปบอกต่อ เราได้ขึ้นปกหนังสือไกด์ท่องเที่ยวของคุณ Roger Wu เซเลปชื่อดังของฮ่องกง เราคนหนึ่งในฐานะคนไทย รู้สึกภาคภูมิใจมาก ๆ ที่ได้เอาซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมาพรีเซนต์ให้ทั่วโลกได้รู้ แล้วต่างชาติก็ยอมรับ”

กว่าจะมาเป็น “นครมูเบอร์เกอร์" ได้นั้น คุณบาสกล่าวว่า ใช้ความพยายามค่อนข้างสูงมาก แต่ก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เมื่อได้รับคำชมและการสนับสนุนจากลูกค้า เพราะสิ่งนั้นมีค่าเท่ากับคำอวยพร ทำให้มีพลังบวก มีกำลังใจอยากพัฒนาแบรนด์ต่อไป

“ในมุมมองของแบรนด์นครมูเบอร์เกอร์ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้ผมได้เป็นวิทยากรพิเศษตามองค์กรต่าง ๆ ผมจะพูดเสมอว่าผมรักประเทศไทย ผมรักแผ่นดินไทย เรามีดีอยู่แล้ว เราแค่หยิบเอาคุณค่าความเป็นไทยมา หยิบจับเอกลักษณ์บางอย่างเข้ามาบวกสร้างคุณค่าให้กับชีวิตคนได้ และนั่นก็คือมูลค่าที่แท้จริงที่จะทำให้สินค้าไทย ธุรกิจไทย มีมูลค่าขึ้นมา ผมตายไปก็เอาสิ่งนี้ไปไม่ได้ ผมอยากกระจายให้กับคนไทยทุกคนเอามุมคิดตรงนี้ไปพัฒนาสินค้าของตัวเองขึ้นมา เพื่อที่จะขายและเปลี่ยนประเทศไทยให้กลายเป็นมูลค่าในรูปแบบใหม่ ๆ ผมยังเชื่อว่ามีซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่ดี ๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมา ซึ่งเราขอเป็นหนึ่งตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจนั้นครับ” คุณบาสกล่าวด้วยรอยยิ้ม