
‘Dime!’ เปิดบริการเทรดหุ้นไทย ตั้งเป้าฐานลูกค้า 1 แสนรายภายในปี 67
21 ก.ย. 2566 00:00บล.เคเคพี ไดม์ (KKP Dime) ในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดบริการซื้อขายหุ้นไทยผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ภายใต้ธีม "บุกตลาดหุ้นไทย Dime! เนินสะดวก" ยกระดับประสบการณ์การเทรดหุ้นแบบไม่จำกัดพรมแดน ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเป็น1 แสนรายภายในปี 67
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นไทยผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ภายใต้ธีม "บุกตลาดหุ้นไทย Dime! เนินสะดวก" ยกระดับประสบการณ์การเทรดหุ้นแบบไม่จำกัดพรมแดน ให้นักลงทุนสามารถลงทุนทั้งหุ้นนอกและหุ้นไทย พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดตัวระบบสมาชิกรายเดือน (Subscription) เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าเต็มพิกัดสำหรับผู้ลงทุนเป็นประจำ ภายใต้นโยบายขยายโอกาสการเข้าถึงการเงินและการลงทุนให้กับทุกคน
โดยมี นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และนายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด ร่วมให้ข้อมูล ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการเปิดตัวบริการใหม่ของ Dime! ว่า วิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ ต้องการส่งเสริมตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจ สังคม และประเทศ โดยหนึ่งในเป้าหมายของเรา คือ การทำให้ตลาดทุนเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ลงทุนและผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจุบันผู้ลงทุนมีความหลากหลายและมีการเติบโตอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ วิธีคิดวิเคราะห์ข้อมูลตลอดจนพฤติกรรมลงทุนที่แตกต่างออกไป
"วันนี้ แอปพลิเคชัน Dime! ได้เข้ามาตอบโจทย์ให้ผู้ลงทุนรุ่นใหม่เข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนให้ตลาดทุนเติบโตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง สอดคล้องกับแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการส่งเสริม ให้ตลาดทุนเป็นโอกาสสำหรับสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทยทุกคน"
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งการให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล หรือ Wealth Management ของกลุ่มธุรกิจการเงินฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรม
"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นที่จะให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนกับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ที่ส่วนใหญ่เป็น Gen X และ Baby Boomers ซึ่งแม้ว่าจะมีจำนวนลูกค้าไม่มาก แต่มูลค่าเงินลงทุนสูงมาก ทำให้ยังสามารถทำธุรกิจได้แม้ว่าต้นทุนในการให้บริการ (Cost to Serve) จะค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหาแนวทางที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง ยังไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งทางกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ก็ต้องตอบโจทย์เรื่อง Cost to Serve ก่อนด้วย รวมทั้งต้องออกแบบลักษณะการให้บริการและประสบการณ์ที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับ ให้สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างไป กลุ่มธุรกิจเกียรตินาคินภัทรจึงได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ซึ่งเป็นการให้บริการตลอดทั้งกระบวนการในรูปแบบที่เป็นดิจิตัล จึงสามารถบริหารต้นทุนการให้บริการได้อย่างเหมะสม ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนรายย่อย สามารถเข้าถึงเรื่องการเงินการลงทุนได้อย่างสะดวกง่ายดายกว่าเดิม ภายใต้แนวคิด'เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน' และวันนี้เป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่แอป Dime! ได้เพิ่มหุ้นไทยเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อให้นักลงทุนได้ซื้อขายอย่างสะดวกสบาย บนแอปพลิเคชันเดียวกัน นับเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ยังคงจุดเด่นเรื่องความใช้งานง่ายของDime! อยู่เช่นเดิม" นายอภินันท์กล่าว
นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KKP Dime เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน Dime! มาครบ1 ปี KKP Dime ภูมิใจที่เราได้มีส่วนช่วยให้พฤติกรรมทางการเงินของคนไทยเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม เห็นได้ชัดจากจำนวนนักลงทุนไทยที่ออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เช่นเดียวกัน บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงโดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร ที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันDime! ก็ได้รับความนิยมและมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเพียง 1 ปี แอปพลิเคชัน Dime! มียอดดาวน์โหลดใช้งานแล้วถึง 6 แสนครั้ง สร้างนักลงทุนหุ้นต่างประเทศหน้าใหม่เพิ่มกว่า 300% ขณะที่ยอดเงินลงทุน (AUM) ผ่านแอปพลิเคชันก็เติบโตกว่า 5 พันล้านบาทแล้วในปัจจุบัน
"จุดเด่นของแอปพลิเคชัน Dime! คือ ประสบการณ์ที่ออกแบบการใช้งานให้ลูกค้าทั้งรู้สึกสนุกและได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบัน แอปพลิเคชันDime! ประสบความสำเร็จในการครองใจนักลงทุน Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวคิด ทัศนคติ และรูปแบบชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของDime! โดยเมื่อรวมกับลูกค้ากลุ่มGen Y จะมีสัดส่วนสูงถึง 86% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด Dime! จึงพร้อมจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองชิ้นสำคัญสำหรับผลักดันเรื่องการเงินการลงทุนให้เป็นที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนไทย ตลอดจนนักลงทุนในยุคใหม่" นายกัมพลกล่าว
โดย Dime! ตั้งเป้าปี 2566 มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) ผ่านแอปพลิเคชั่นแตะ 6,000 ล้านบาท หลังเปิดตัวได้แล้ว1 ปี ซึ่งปัจจุบันก็เติบโตขึ้นมาแล้วกว่า5,000 ล้านบาท มีจำนวนฐานลูกค้ากว่า 6 แสนราย และมั่นใจว่า AUM จะเพิ่นขึ้นแตะ 10,000 ล้านบาท และมีจำนวนฐานลูกค้า 8 แสนรายภายในปี 2567
ขณะที่ฟีเจอร์ใหม่ที่ได้เปิดตัวให้บริการซื้อขายหุ้นไทยปัจุบันเปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 2 เดือน มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้วประมาณ 20,000 ราย โดยตั้งเป้าจำนวนฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น1 แสนราย และตั้งเป้า AUM เติบโต 2,000-3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567
สำหรับกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชัน Dime! เจาะกลุ่มผู้ลงทุนได้อย่างรวดเร็ว คือ'การใส่ใจรับฟังลูกค้า' ทำให้ KKP Dime สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้ตรงจุดและตอบโจทย์พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในปัจจุบันได้ โดยจะเห็นได้ว่า ตลอด1 ปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน Dime! ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาดจากผู้ใช้งาน
"โดยไฮไลต์เด่นของงานคือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หุ้นไทย ที่ KKP Dime มุ่งมั่นต่อยอดการเป็นแอปพลิเคชันลงทุนยอดนิยมให้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิดเปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายทั้งหุ้นต่างประเทศและหุ้นไทยร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ที่ออกแบบประสบการณ์การใช้งานโดยให้คำนึงถึงพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนเป็นหลัก สะท้อนออกมาเป็นความเรียบง่ายในการใช้งาน ด้วยระบบซื้อขายที่ลื่นไหลกว่าที่เคย ตั้งแต่การค้นหาหุ้นไปจนถึงขั้นตอนส่งคำสั่งซื้อขาย พร้อมอัดแน่นด้วยคำอธิบาย ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดวิธีการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือแม้แต่คำศัพท์ทางการเงินที่ซับซ้อน ผ่านภาษาที่เข้าใจได้ง่าย พร้อมให้นักลงทุนมือใหม่และมือเก่าเติมเต็มความรู้ในทุกขั้นตอน"
อีกจุดเด่นที่มีเฉพาะแอปพลิเคชัน Dime! คือ การออกแบบให้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ภายในแอปพลิเคชัน Dime! เป็นได้ทั้งบัญชีเงินฝากและบัญชีลงทุนในบัญชีเดียว ผู้ใช้งานสามารถใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อฝากเงินรับดอกเบี้ยสูงสุด 3% ต่อปีจากธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือจะใช้เป็นบัญชีเพื่อพักเงินไว้รอลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ด้วยความสะดวกสบายนี้ จึงวางใจได้ว่าเงินลงทุนของลูกค้า Dime! จะเติบโตอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วันแรกที่ฝากเงินเข้ามา แม้จะยังไม่ได้เริ่มลงทุนเลยก็ตาม Dime! ยังต่อยอดจุดแข็งในฐานะบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ด้วยการออกบริการจองหุ้น IPO เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของหุ้น IPO ได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าประสบการณ์การลงทุนหุ้นไทยของทุกคนจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
"ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ภายในงาน คือ บริการสมาชิกรายเดือน ที่จะเพิ่มความคุ้มค่าเต็มพิกัดให้กับผู้ที่ลงทุนเป็นประจำ โดยผู้สมัครสมาชิกรายเดือนจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น เทรดฟรีค่าคอมมิชชัน5 ไม้ต่อเดือน และยังเทรดได้ด้วยอัตราค่าคอมมิชชันที่ยืดหยุ่นตามมูลค่าคำสั่งซื้อขาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Dime! สมัครใช้บริการได้ภายในสิ้นปี 66"