‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์’ จากผลงานอินดี้เล็ก ๆ สู่จักรวาลหนังที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเมืองไทย

11 ต.ค. 2566 00:00

เชื่อว่าแฟนหนังชาวไทยทุกคน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” แฟรนไชส์หนังจากภาคอีสาน ที่เริ่มต้นจากการเป็นหนังอินดี้เล็ก ๆ ไม่ใช่ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ มีทีมงานไม่กี่คน และเต็มไปด้วยนักแสดงที่เราไม่คุ้นหน้า แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ และทำรายได้มหาศาลจนเกิดเป็นจักรวาลหนัง ที่ปัจจุบันมีหนังไปแล้ว 8 เรื่อง ไม่รวมผลงานเพลงและซิตคอมอีกหลายตอน

โดยหนังในจักรวาลนี้ประกอบไปด้วย ไทบ้าน เดอะซีรีส์,ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1 ,ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2 ,ไทบ้าน x BNK48 ,รักหนูมั้ย,หมอปลาวาฬ,เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ และล่าสุดกับ “สัปเหร่อ” ที่เข้าฉายเพียงสัปดาห์เดียว ก็ทำรายได้เกิน 50 ล้านไปแล้ว และอะไรที่ทำให้หนังเหล่านี้ได้รับความนิยม วันนี้เราจะพามาดูการเดินทางของ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ จักรวาลหนังที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเมืองไทยกัน

จุดเริ่มต้นของ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” เกิดจากการรวมกลุ่มเด็กมัธยม ที่มีความใฝ่ฝันอยากจะทำหนังฉายโรงสักเรื่อง จึงพากันแยกย้ายไปเรียนเพื่อสั่งสมความรู้และประสบการณ์ เมื่อเรียนจบพวกเขาได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมกับไอเดียที่จะสร้างซีรีส์วัยรุ่นพูดภาษาอีสานเรื่องแรกของไทยขึ้นมา และเล่าเรื่องในยุคปัจจุบันบ้าง จึงรวบรวมเงินขึ้นมาก้อนหนึ่ง ทำตัวอย่างหนังไปเสนอตามที่ต่าง ๆ เพื่อขอสปอนเซอร์ และตั้งชื่อเรื่องว่าไทบ้าน โดยเหล่าทีมงานก็ได้ให้เหตุผลว่า มันเป็นคำที่เรียบง่ายและสามารถสื่อถึงความเป็นท้องถิ่นอีสานได้ดี

แต่ผ่านไปเป็นปี กลับไม่มีนายทุนคนไหนสนใจ เพราะหน้าหนังที่ไม่คุ้นเคยกับคนในตอนนั้น มีทีมงานที่ประสบการณ์น้อย แถมยังไม่มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงสักคน จนกระทั่ง สุรศักดิ์ ป้องศร ผู้ที่ทำหน้าที่กำกับและเขียนบท ได้ตัดสินใจอัปโหลดตัวอย่างหนังเรื่องนี้ลงบน Facebook และก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มียอดวิวกว่าล้านวิวภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

จนในที่สุด ทีมงานก็ได้รับทุนมาเพื่อสานต่อหนังให้สมบูรณ์ จากโต้ง สิริพงศ์ ส.ส. จังหวัดศรีสะเกษ ที่ให้เงื่อนไขว่าจะเจ๊งก็ได้ไม่เป็นไร แต่ต้องถ่ายทำกันที่ศรีสะเกษ ซึ่งด้วยความเป็นกันเองของทีมงานและนักแสดง ที่มีการไลฟ์พูดคุยกับแฟน ๆ และอัปเดตขั้นตอนการถ่ายทำอยู่เสมอ ก็ทำให้มีคนที่รอดูหนังเพิ่มมากขึ้นไปด้วย จนเมื่อหนังเข้าฉายใน วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 ตัวหนังก็โกยเงินทะลุ 28 ล้านบาท สูงกว่าค่าต้นทุนไปหลายสิบเท่า และสร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการหนังไทยนับตั้งแต่นั้น

แม้ในปีนั้นจะมีสุดยอดหนังอย่าง ฉลาดเกมส์โกง ที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ แต่ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ก็ถือเป็นหนังม้ามืดจากการที่มีบทเรียบง่าย มีนักแสดงที่ไม่ได้เป็นดาราคนดัง และเล่าเรื่องอยู่ในชนบทอีสาน พูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง แต่องค์ประกอบเหล่านี้เองที่มันโดนใจผู้ชมโดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่ตัวหนังได้เข้าฉายก่อนกรุงเทพ และเกิดกระแสปากต่อปากจนทำให้หนังประสบความสำเร็จ

จนมีการสร้างภาค 2 ออกมาในปี 2561 ที่แบ่งหนังออกเป็น2พาร์ท แถมยังถูกกองเซ็นเซอร์เล่นงานมาแล้ว แต่ก็ไม่อาจทำอะไรหนังเรื่องนี้ได้ มันยิ่งเป็นการทำให้คนรู้จักแฟรนไชส์นี้มากขึ้นเป็นวงกว้าง จนสามารถทำรายได้รวมมากกว่า 100 ล้านบาท ขึ้นแท่นหนังที่ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในปีนั้น เป็นรองเพียงแค่ นาคี ๒ และ น้อง.พี่.ที่รัก ที่ก็ใช้ทุนสร้างสูงกว่าไทบ้านหลายเท่า

หลังจากนั้นไทบ้านเดอะซีรีส์ก็ก้าวเข้าสู่จักรวาลไทบ้าน ที่มีการทำหนังร่วมกับ BNK48 และหนังภาคแยกของตัวละครหมอปลาวาฬกับเซียนหรั่ง อีกทั้งยังเปิดค่ายเพลงชื่อเซิ้ง Music ที่ทำเพลงดังติดหูอย่างเพลง กอดเสาเถียง,ขอบใจเด้อ,อีหล่าเอ๋ย หรือ แรกตั้งใจฮัก แม้จะมีหนังจากค่ายอื่น ๆ ที่พยายามตามรอยความสำเร็จของไทบ้าน และหันมาสนใจทำหนังสไตล์อีสานกันมากขึ้น แต่ก็ไม่มีหนังเรื่องไหนที่สามารถทำได้ระดับเดียวกับไทบ้านเลย

นอกจากเรื่องเสน่ห์ที่ยากจะลอกเลียนแบบของหนังไทบ้านแล้ว หนังแต่ละเรื่องยังมีคุณภาพและมีโปรดักชันที่ไม่ได้มาเล่น ๆ ทั้งงานภาพที่สวยงาม โลเคชั่นที่สมจริง มีเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม เหล่านักแสดงก็สามารถแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ จะเล่นฉากตลกหรือฉากดราม่าก็ได้ทั้งนั้น และหนังแต่ละเรื่องยังแฝงแง่คิด และประเด็นทางสังคมที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างลงตัว

แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งผลักดันให้จักรวาลไทบ้านประสบความสำเร็จ คือการเผยแพร่มุมมองหรือถ่ายทอดวัฒนธรรมของภาคอีสาน ที่มักถูกมองข้ามเสมอในหนังไทยยุคใหม่ ที่ชอบเล่าเรื่องราวของคนเมือง เด็ก ม.ปลายในโรงเรียนเอกชน หรือไม่ก็พนักงานออฟฟิศวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น แต่กลับลืมไปว่าภาคอีสานนั้นเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และมีประชากรเกือบ 40% ของประเทศ ที่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ผู้สร้างหนัง จะเล่าเรื่องราวของพวกเขา ที่พูดภาษาอีสาน ถ่ายทำกันที่ภาคอีสาน และมีหัวใจความเป็นอีสาน ซึ่งพวกเขาก็สมหวังอย่างปลื้มปริ่ม จากจักรวาลหนังที่ชื่อว่า “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” นี้เอง