ก.ล.ต. ประเมินกองทุน TESG ดึงเงินไหลเข้า 6 พันล้าน/เดือน มั่นใจช่วยฟื้นตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง
30 ก.ค. 2567 00:00ก.ล.ต. ออกประกาศรองรับเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG ใหม่ ขยายขอบเขตการลงทุน และส่งเสริมบทบาท บลจ. คาดลงประกาศในราชกิจจาฯ และมีผลใช้บังคับภายใน ส.ค.67 "พรอนงค์" มั่นใจช่วยฟื้นตลาดหุ้น ประเมินเม็ดเงินไหลเข้าเดือนละ 6 พันล้านบาท หรืออย่างน้อย 3 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 มีมติอนุมัติหลักการการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อเพิ่มแรงจูงใจของการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเพิ่มวงเงินการหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
รวมทั้งลดระยะเวลาถือหน่วยลงทุนเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปี (วิธีการนับแบบวันชนวัน) จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายหน่วยลงทุนคืน จากเดิมต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปี
พร้อมทั้ง ยังได้ขยายขอบเขตการลงทุนของกองทุน Thai ESG โดยสำนักงาน ก.ล.ต. จะออกประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนขยายขอบเขตให้ครอบคลุมหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET ESG Rating ที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากล กับบริษัทจดทะเบียนที่มีระดับการประเมิน CG Rating ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G)เพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. ได้เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุน Thai ESG โดยสาระสำคัญแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นคือ
1. ขยายการประเมินเรตติ้งในการลงทุนของกองทุน Thai ESG ให้ไปรวมถึงกรณี บลจ. ประสงค์จะใช้บริการผู้ประเมินรายอื่นที่มีความน่าเชื่อถือและมีอิสระที่จะจัดเรตติ้งให้ได้ เช่น S&P Global, MSCI เป็นต้น ซึ่งคู่ขนานกับทางตลาดหลักทรัพย์ที่จะมีการเปลี่ยนผู้จัดทำ ESG Rating จากตลาดหลักทรัพย์เป็น FTES Russell อย่างเป็นทางการ
2. ขยายขอบเขตให้กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนหุ้นที่มีธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศ พิจารณาจากเรตติ้ง IOD ที่ต้องมีระดับ 90 คะแนนขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 320 บริษัทจดทะเบียน จัดอยู่ในดัชนี SET ESG Rating อยู่แล้ว 132 บริษัท นอกจากนี้หากมีกระบวนการเปิดเผยแผนหรือเป้าหมายในการทำธุรกิจที่จะเพิ่มมูลค่าของกิจการออกมาที่ชัดเจน และเปิดเผยข้อมูลสื่อสารกับผู้ลงทุนผ่านกิจกรรม Opportunity Day ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องของความยั่งยืนในเชิงการให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น นอกเหนือจากการรายงานข้อมูล One-report ก็สามารถจะลงทุนได้
"จากเกณฑ์ใหม่ทำให้กองทุนมีขอบเขตการลงทุนในหุ้นได้เพิ่มขึ้น 136 บจ. เบื้องต้นคาดจะเม็ดเงินลงทุนจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเดือนละประมาณ 6,000 ล้านบาท ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ (ช่วงเวลาที่เหลือประมาณ 5 เดือน) จะมีเม็ดเงินเข้ามมาอย่างน้อย 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกช่วยให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง" นางพรอนงค์ กล่าว
สำหรับประกาศที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุน Thai ESG คาดว่าจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับภายในเดือน ส.ค.67 ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุน Thai ESG ที่มีอยู่แล้วโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีใหม่ได้ทันที และ ก.ล.ต. จะประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกและเตรียมความพร้อมให้ บลจ. ที่ประสงค์จะจัดตั้งกองทุนT hai ESG ตามเงื่อนไขใหม่ หรือแก้ไขโครงการเดิมเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุนตามหลักเกณฑ์ใหม่ต่อไปด้วย