
ตลท. จี้ "AKS" แจงปมร้อน ลงทุน GEPT - ซื้อคืนหุ้น WEH แผนธุรกิจอนาคต ภายใน 24 เม.ย.นี้
11 เม.ย. 2568 00:00
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จี้ บมจ.เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น (AKS) แจง 3 ประเด็นร้อน การลงทุน GEPT การซื้อคืนหุ้น WEH และธุรกิจกันชง รวมถึงผลการดำเนินงานในอนาคต หลังประสบภาวะขาดทุนก้อนใหญ่่ ภายใน 24 เม.ย. นี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งหนังสือให้บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AKS ชี้แจงข้อมูลงบการเงินประจำปี 2567 ที่ผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกต 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การลงทุนเพิ่มในบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (GEPT) โดยเปลี่ยนราคาจ่ายซื้อหุ้นเพิ่มอีก 20% และเปลี่ยนการจ่ายค่าจัดหาหุ้นเป็นค่าคอมมิชชั่น ซึ่งต้องคืนเงินส่วนต่างให้บริษัทแต่ยังไม่ได้รับเงินคืน 255 ล้านบาท
2. การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) แต่บริษัทไม่สามารถจ่ายเงิน เมื่อครบกำหนดชำระได้
3. การประกอบธุรกิจในอนาคต ซึ่งได้บันทึกด้อยค่าค่าความนิยมในจำนวนที่มีนัยสำคัญ กรณีข้างต้น อาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท
โดยขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 24 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567
1. การลงทุนเพิ่มในบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (GEPT) (ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมาร์) เมื่อเดือนกันยายน 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ซื้อหุ้น GEPT จากบริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (META) 12% (ปัจจุบันถือ 11.5% เป็นเงินลงทุน 1,382 ล้านบาท) โดยทำสัญญาให้ Planet Energy Holding Pte. (PEH) เป็นผู้เจรจากับ META และได้จ่ายค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้นให้กับ PEH 300 ล้านบาท รวมทั้งเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้จ่าย เงินมัดจำค่าหุ้นแบบเรียกคืนได้ให้กับ META 250 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลให้จะต้องได้รับเงินคืนจากPEH 255 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับคืน สรุปได้ดังนี้
- วงเงินซื้อหุ้น GEPT 12% ประกอบด้วย เดิม 1,050 ล้านบาท ปรับลดลงเหลือ 945 ล้านบาท
- ค่าหุ้น GEPT (จ่ายให้ META) เดิม 750 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น 900 ลบ. ( 20%) จ่ายไปแล้ว 250 ล้านบาท
- ค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น / ค่าคอมมิชชั่น (จ่ายให้PEH) เดิมเป็นค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น 300 ล้านบาท จ่ายไปแล้วทั้งจำนวน ปรับเป็นค่าคอมมิชชั่น 5% เท่ากับ 45 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2567 บริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของหุ้นGEPT 798 ล้านบาท (58% ของเงินลงทุน) ทำให้เงินลงทุนลดลงจาก 1,382 ล้านบาท เหลือ 585 ล้านบาท และผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตของการลงทุนเพิ่มเติมตามข้างต้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้
1.1 ความสมเหตุสมผลของราคาซื้อหุ้น GEPT และการปรับราคาซื้อเพิ่มอีก 20% โดยบริษัทได้หุ้นสัดส่วนเท่าเดิมและมูลค่ายุติธรรมของหุ้นGEPT ลดลง รวมทั้งการจ่ายเงินมัดจำ พร้อมสรุปข้อมูลที่ใช้พิจารณาลงทุนโดยสังเขป (เช่น อัตราผลตอบแทน เงื่อนไขยกเลิกการลงทุน) มาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน)
1.2 ความสมเหตุสมผลและประโยชน์สูงสุดที่บริษัทจะได้รับจากการให้ PEH เป็นผู้เจรจาซื้อหุ้นแทนเจรจากับ META โดยตรง ทั้งที่บริษัทมีความสัมพันธ์เป็นผู้ถือหุ้นของ GEPT 11.5% พร้อมสรุปข้อมูลสำคัญของ PEH และสัญญา (เช่น การประกอบธุรกิจ ชื่อผู้ถือหุ้นและกรรมการ รวมถึงความสัมพันธ์กับบริษัททั้งผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร ณ วันที่เข้าทำสัญญาและปัจจุบัน กรอบเวลาของสัญญา เงื่อนไขสำคัญตามสัญญา)
1.3 ความคืบหน้าและการดำเนินการเพื่อให้ได้หุ้น GEPT และรับเงินคืนจาก PEH รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน) กรอบเวลาที่จะได้รับหุ้น GEPT และได้รับเงินคืนครบจำนวน
ทั้งนี้ ขอให้รายงานความคืบหน้าพร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่สำคัญจนกว่าจะได้หุ้น GEPT หรือได้รับเงินคืนจาก PEH ครบถ้วน
2. การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH)
ตามที่ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลกรณีทำสัญญาขายหุ้น WEH 1.25 ล้านหุ้น และซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า บริษัทชี้แจงว่าเป็นการทำสัญญากู้ยืมเงินโดยใช้หุ้น WEH เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผู้ให้กู้ ต้องโอนหุ้น WEH คืนเมื่อได้รับชำระเงินครบถ้วนตามสัญญากู้ยืม
ทั้งนี้ ปี 2567 กลุ่มบริษัทไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด 5.2 ล้านบาท และมียอดที่ต้องชำระภายในปี 2568 อีก 86.2 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรม 431 ล้านบาท (33% ของเงินลงทุน) ทำให้เงินลงทุนลดลงจาก 1,290 ล้านบาท เหลือ 859 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตตามข้างต้นและการทำสัญญาขายหุ้นWEH และซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้
2.1 มาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการถูกยึด WEH ซึ่งเป็นหลักประกันเงินกู้ยืม
2.2 ความคืบหน้าการชำระหนี้ที่ครบกำหนดแล้วและแนวทางดำเนินการเพื่อชำระหนี้ที่จะครบในปี 2568 ได้ตามกำหนด
3. การประกอบธุรกิจในอนาคต
ปี 2567 บริษัทบันทึกด้อยค่าความนิยมของบริษัท อีโกรนิกส์ จำกัด (ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกัญชงกัญชา : บริษัทย่อย 100%) 1,034 ล้านบาท จากมูลค่าเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ทำให้มีค่าความนิยมเหลือ 101 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของ GEPT และ WEH ตามที่ระบุในข้อ 1 และ 2 รวม 1,229 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชี มีข้อสังเกตตามข้างต้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้
3.1 นโยบายการประกอบธุรกิจกัญชงกัญชาในอนาคต รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนต่างๆ ในอนาคต เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และสภาพคล่องของบริษัท
3.2 ความครบถ้วนเพียงพอของบันทึกค่าความนิยมหรือมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน




ยอมรับการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ การใช้งานที่ดีที่สุด