ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง “ปกรณ์ มงคลธาดา” ผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการ บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (AQUA) ใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น สั่งปรับรวม 19,339,187 บาท รวมทั้งห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 14 เดือน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ในช่วงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 – 25 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ AQUA จะเปิดเผยข้อมูลภายในเกี่ยวกับกรณีที่ AQUA จะอนุมัติจำหน่ายหุ้นสามัญในบริษัทย่อยของ AQUA ให้กับบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB และจะอนุมัติซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PLANB ซึ่งส่งผลด้านบวกต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น AQUA และผู้ลงทุนทั่วไปไม่อาจคาดการณ์ได้ นายปกรณ์ มงคลธาดา ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการของ AQUA ที่ล่วงรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าวได้ซื้อหุ้น AQUA โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าวก่อนที่ AQUA จะเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 07.48 น.

การกระทำของนายปกรณ์ เป็นความผิดฐานซื้อหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ กับนายปกรณ์ โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งให้นายปกรณ์ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 19,339,187 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 14 เดือน

การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

จากการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (AQUA) ณ วันที่ 2 เมษายน 2568 ปรากฎรายชื่อ นายปกรณ์ มงคลธาดา ติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 397,086,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.95%