บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจโชว์หรูไตรมาส 1/ 68 กวาดกำไร 146.41 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 40% เผยงานธุรกิจวิศวกรรมเทคโนโลยีดันยอดโต ด้านระบบบริหารจัดการเอกสารยังไม่แผ่ว เผยตั้งแต่ต้นปีงานใหม่กว่า 900 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกในมือกว่า 4 พันล้านบาท คาดครี่งปีหลังงบปี 68 งานเพิ่มอีกเพียบ

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการ DITTO และบริษัทย่อย ว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการ 745 .27 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขายและบริการ 717.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 4% โดยมีกำไรสุทธิ 146.41 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 104.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 41.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 40%

ทั้งนี้ บริษัทฯยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งรายได้หลักมาจากธุรกิจวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี และโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและระบบ Cyber Security ที่ขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน

โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯรับรู้รายได้จากการให้บริการในโครงการนำเข้าข้อมูลที่ดินเพื่อการจดทะเบียนออนไลน์ทั่วประเทศให้กับสำนักงานกรมที่ดินจำนวน 94.07 ล้านบาท และบริษัทฯมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการค้าร่วม 16.84 ล้านบาท

นายฐกร กล่าวอีกว่า จากผลกำไรใน Q1/2568 เทียบกับ Q1/ 2567 กำไรโต 40% สะท้อนว่าแม้ในยามที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังคงผันผวนและฟื้นตัวอย่างช้าๆส่งผลถึงสภาพตลาดธุรกิจ IT Service ทำให้บริษัทต่างๆมีแนวโน้มที่ผลประกอบการโดยรวมไม่เป็นไปตามเป้า แต่สำหรับ DITTO ยังรักษาระดับการเติบโตไม่น้อยกว่าเดิม ด้วยกลยุทธ์เฉลี่ยความเสี่ยงโดยการกระจายกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ไม่เน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะเห็นว่าลูกค้า DITTO มีทั้งภาคราชการ ภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ และยังกระจายความเสี่ยงไปหลายๆธุรกิจ มีธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสร้างรายได้จากลุ่มลูกค้าใหม่ๆด้วย ดังนั้นแม้เศรษฐกิจไม่ดีแต่ก็ยังรักษาระดับการเติบโตได้ซึ่งผลประกอบการที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีโครงการใหม่ที่เซ็นสัญญาแล้วหลายโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นงานด้านวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีของ บ.สยามทีซี ซึ่งเป็นบริษัทลูก มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท หากรวมในส่วนของงานดิจิทัลไฟล์ ที่เป็นงานต่อเนื่อง เช่น ศาล ธกส. เป็นต้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ได้รับงานใหม่ประมาณ 900 ล้านบาท ทำให้มี Backlog ในมือกว่า 4,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงานกรมที่ดินที่รอผลจากการเข้าประมูลงานล่าสุดคาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้

นายฐกร กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2 ผลประกอบการมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากงบประมาณประจำปี 2568 เริ่มทยอยออกมา คาดจะมีโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐที่ทาง DITTO เตรียมตัวเข้าไปร่วมแข่งขันหลายโครงการ ประกอบกับแบ็กล็อก (Backlog) ที่มีอยู่ในมือทั้งในส่วนของที่มีอยู่เดิมและโครงการใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มเป็นระยะๆ รวมแล้วกว่า 4 พันล้านบาท และคาดไตรมาส 2 จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการขนาดใหญ่ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทะยอยเข้ามา โดยในแต่ละปีบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีโต 20 - 30%