
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยนักลงทุนในประเทศถือครองหุ้นไทยมากสุด 45.05% ต่างชาติ 32.99%
31 ก.ค. 2568 00:00ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานการถือครองหุ้นไทย ณ สิ้น มิ.ย. 68 สัดส่วนใกล้เคียงปีก่อน นักลงทุนในประเทศมีมูลค่าการถือครองมากสุด 45.05% นักลงทุนต่างประเทศ 32.99% ตามด้วยนักลงทุนสถาบันในประเทศ 21.81% และสัดส่วนน้อยสุดบริษัทหลักทรัพย์ที่ 0.15%
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ของบริษัทจดทะเบียน 854 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 13.43 ล้านล้านบาท หรือ 97.89% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด พบว่า
ตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนแต่ละประเภท (นักลงทุนในประเทศ นักลงทุนสถาบันในประเทศ นักลงทุนต่างประเทศ และบริษัทหลักทรัพย์) พบนักลงทุนในประเทศมีสัดส่วนตามมูลค่าการถือครองหุ้นมากที่สุดอยู่ที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด (ซึ่งแบ่งออกเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศ 25.68% และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ 19.37%) รองลงมา คือ นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99% ตามมาด้วยนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ 21.81% และบริษัทหลักทรัพย์ที่ 0.15%
หากพิจารณาตามสัญชาติของนักลงทุน พบว่า 67.01% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็นการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนไทย ขณะที่อีก 32.99% ถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากประเภทหลักทรัพย์ตามสิทธิประโยชน์ (local shares / foreign shares / NVDR) พบว่า 66.92% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็น local shares สอดคล้องกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนไทย และที่เหลือประมาณ 33.08% เป็น foreign shares และ NVDR สอดคล้องและใกล้เคียงกันกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ หมายถึง นักลงทุนถือครองหุ้นตรงตามสิทธิ ทำให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น (voting rights) และสิทธิประโยชน์ทางการเงิน (financial benefits)
โดยสรุปจากการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2568 ยังคงมีทิศทางและสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์ สังเกตได้จากการเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครบถ้วน