
แบงก์กรุงเทพ โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 68 กำไรสุทธิ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9%
21 ต.ค. 2568 00:00ธนาคารกรุงเทพ เผยผลงานไตรมาส 3 ปี 68 กำไรสุทธิ 13,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.52% ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 38,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากการบริหารจัดการสินทรัพย์ ด้วยการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อย (BBL) รายงานกำไรสุทธิสไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ 13,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 12,476 ล้านบาท สำหรับ 9 เดือนปี 2568 จำนวน 38,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ ด้วยการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน
โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 94,364 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.81 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงเล็กน้อยจากบริการธุรกรรมผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 44.7 นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลงจากไตรมาสก่อน ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับ 9 เดือนปี 2568 มีจำนวน 29,549 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพยังคงแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,606,661 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.2 จากสิ้นปีก่อน โดยสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ยังคงมีการเติบโต
สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 294.2 เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 จำนวน 3,174,287 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.1 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 22.6 ร้อยละ 18.0 และร้อยละ 18.0 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด