MENU

เจาะลึกผลงาน ปตท. ไตรมาส 3/2568: ฝ่าคลื่นเศรษฐกิจด้วยกำไรเกือบ 2 หมื่นล้าน พร้อมปรับพอร์ตรับมือความท้าทายโลก

 24 พ.ย. 2568 00:00

ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งขององค์กรพลังงานแห่งชาติอย่าง ปตท. ได้ถูกเผยออกมาแล้ว ด้วยตัวเลขกำไรไตรมาส 3 ที่เติบโตสวนกระแส พร้อมกลยุทธ์ Smart Exit และการจัดทัพธุรกิจใหม่ที่น่าจับตามอง

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานที่สะท้อนถึง “การผ่านบททดสอบ” ครั้งสำคัญ โดยในไตรมาส3 ปี 2568 ปตท. และบริษัทย่อย สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 19,784 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 21.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการภายในที่เฉียบขาด ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งการรับรู้กำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) ซึ่งช่วยลดภาระดอกเบี้ยในอนาคต แม้ภาพรวม 9 เดือนแรกจะมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันโลก ทำให้กำไรลดลงเหลือ 64,632 ล้านบาท แต่ ปตท. ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนด้วยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.90 บาทต่อหุ้น


เสริมแกร่ง Hydrocarbon หัวใจหลักแห่งความมั่นคง


ภารกิจหลักของ ปตท. ยังคงเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ในปีนี้ ปตท. จึงเดินเกมรุกในสิ่งที่ถนัดที่สุดด้วยการเร่งขยายฐานธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ทั้งในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และการรุกตลาดต่างประเทศอย่างโครงการในแอลจีเรีย ทูอัท ในทวีปแอฟริกา อีกทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ราเคซ ระยะที่ 2


ขยายการค้า: ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีการเติบโตโดดเด่น ทำการค้าและลงทุน LNG ไปแล้วกว่า 2.2 ล้านตัน และกำลังจ่อเซ็นสัญญาระยะยาวอีก 1.6 ล้านตัน หาพันธมิตร: กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางกลยุทธ์ (Strategic Partners) เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน

กลยุทธ์ Smart Exit และการปรับพอร์ต Non-Hydrocarbon


ความน่าสนใจของปีนี้คือการตัดสินใจที่เด็ดขาดในธุรกิจ Non-Hydrocarbon ปตท. เลือกที่จะลดบทบาทในธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลักเพื่อดึงเงินสดกลับเข้าบริษัท (Smart Exit)


ธุรกิจ EV: ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน Horizon Plus และขายหุ้นใน CATL รวมถึงจำหน่ายเงินลงทุนใน NMA


Life Science: บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (INBA) ได้ลดสัดส่วนหุ้นในบริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) เพื่อเปิดทางให้ Lotus สามารถขยายตลาดยาในสหรัฐฯ ได้คล่องตัวขึ้นแบบพึ่งพาตนเอง (Self-Funding) โดยผ่านการลงทุนในบริษัทNew Alvogen Group Holdings Inc. (Alvogen US)


ปฏิบัติการปั๊มกำไรจากภายใน (EBITDA Uplift)


ปตท. ไม่ได้รอแค่ปัจจัยภายนอก แต่สร้างความแข็งแกร่งจากภายในผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มกำไรได้รวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยมีไฮไลต์สำคัญในรอบ 9 เดือน ดังนี้


MissionX: ปรับปรุงกระบวนการทำงานสู่ความเป็นเลิศ สร้างมูลค่าแล้วกว่า 8,332 ล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท


Asset Monetization (A1): บริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยผลักดันให้ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด หรือ PTT Tank เป็นแกนหลักด้านโครงสร้างพื้นฐาน รับโอนสินทรัพย์จาก TOP และ GC มาบริหารเพื่อลดต้นทุนและสร้าง Synergy ร่วมกัน


Financial Excellence (F1): บริหารการเงินที่ตอบโจทย์ธุรกิจและเพิ่มมูลค่าองค์กร เช่น ขยายเครดิตเทอมค่าวัตถุดิบให้บริษัทในกลุ่ม และการบริหารหนี้เงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน


นอกจากนั้นยังมีการบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ P1 และ D1 สร้างผลประโยชน์รวมทั้ง 2 โครงการประมาณ 3,634 ล้านบาท


ขณะที่ในส่วนของ Digital Transformation ก็ได้มีการนำ AI และ Digital Tools มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร ทั้งนี้ ด้วยการดำเนินการทั้งหมด จึงทำให้กลุ่ม ปตท. สามารถรักษาการดำเนินงานตามแผนได้ในทุกมิติ โดยมี EBITDA 9 เดือนแรกจำนวน 257,957 ล้านบาท และมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นในระดับที่แข็งแกร่งจำนวน 413,718 ล้านบาท รองรับการลงทุนและสภาพคล่องในระยะยาว


มุ่งสู่ Net Zero และเคียงข้างสังคมไทย


นอกเหนือจากตัวเลขทางธุรกิจ ในมิติด้านความยั่งยืน ปตท. ยังคงมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 และจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 15% ในปี 2035 โดยมีโครงการสำคัญคือ CCS (การดักจับและกักเก็บคาร์บอน) ที่แหล่งอาทิตย์ ซึ่งจะเริ่มใช้งานจริงในปี 2571 และพัฒนาเป็น CCS Hub ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกต่อไป


ในมิติทางสังคม ปตท. ยังคงยืนหยัดช่วยเหลือคนไทย ทั้งการมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย การตรึงราคาน้ำมัน ขยายเวลาช่วยราคา NGV และการมอบส่วนลดค่าไฟสำหรับผู้ใช้ EV ส่งเสริมศักยภาพศิลปินไทยมากว่า 4 ทศวรรษ ผ่านการจัดประกวดศิลปกรรม ปตท. พัฒนาสวนเปรมประชาวนารักษ์ แลนด์มาร์คสีเขียวแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ริมคลองเปรมประชากร


ด้วยระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตลอดช่วงไว้ทุกข์ อาทิ จัดพิธีแสดงความอาลัย ในวาระครบ 7 วัน 15 วัน ร่วมพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ กับกระทรวงพลังงาน นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. มีแผนทำจิตอาสาแจกเครื่องดื่ม และอาหารว่าง ให้แก่ประชาชนที่มาแสดงความอาลัย ณ ท้องสนามหลวงสัปดาห์ละ 1 วัน เริ่มปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ กำหนด 1 ปีนับตั้งแต่วันสวรรคต