
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับปมปปง.ยึดหุ้น “บางจาก” กระทบตลาดทุนไทย - ก.ล.ต. เล็งสาวลึกถึง “ผู้ถือหุ้นตัวจริง”
4 ธ.ค. 2568 00:00
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมรับกรณีปปง. ยึดหุ้น "บางจาก" กระทบความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย พร้อมให้การสนับสนุนการสอบสวนเต็มที่ ด้าน ก.ล.ต. ประสานขอข้อมูลปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มตรวจสอบ มุ่งประเด็นผู้ถือหุ้นตัวจริงที่ได้รับผลประโยชน์ หากพบกระทำผิดไม่รายงานการหรืออำพรางการถือครองหุ้น ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้แถลงการณ์ปฏิบัติการจับกุมและอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในขบวนการสแกมเมอร์ สามารถอายัดทรัพย์สินได้มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้าน รวมถึงหลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ โดยหนึ่งหลักทรัพย์ที่มีระบุ คือ หุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทนั้น
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่หลักคือ การตรวจสอบธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการซื้อขายและการโยกย้ายหลักทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้เสมอ ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนของภาครัฐอย่างเต็มที่
ส่วนประเด็นเรื่องของผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย นายอัสสเดช กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีบริษัทจดทะเบียนกว่า 800 บริษัท แม้กรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องเฉพาะราย แต่ก็ยอมรับว่ากรณีที่ผ่านมา 2 - 3 กรณี ได้ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของตลาดทุนมาโดยตลอด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีที่ได้เห็นมาตรการของภาครัฐที่ออกมาปกป้องคุ้มครอง ไม่ใช่แค่ตลาดทุน แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการตรวจสอบธุรกรรมเป็นประจำทุกวัน พร้อมสนับสนุนข้อมูลแก่ทางการเพื่อการสืบสวนและสอบสวนทุกรูปแบบ ทั้งการไหลเข้าของเงินทุนในตลาดทุนมีกฎเกณฑ์และขอบเขตในการกำกับดูแลที่ชัดเจน รวมถึงการตรวจสอบลูกค้า หรือขั้นตอน KYC ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตลาดทุน ส่วนในบริบทการกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเน้นที่พฤติกรรมการทำธุรกรรมเป็นหลัก" นายอัสสเดช กล่าว
สำหรับเรื่องความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพคล่อง (Free Float) และความเสี่ยงในการเข้ามาสร้างราคาหุ้นภายหลังหุ้นบางจากถูกอายัดไป มองว่าหุ้นในส่วนที่ถูกอายัดไม่ได้เป็นหุ้นที่มีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอในตลาด ผลกระทบต่อกลไกตลาดโดยตรงจึงมีไม่มากนัก อีกทั้งปัจจุบันสภาพคล่องของหุ้นบางจาก ยังอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ50.6% โดยมีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน ซึ่งอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวสภาพคล่องอย่างมีนัยสำคัญ

ก.ล.ต. เร่งสาวลึกให้ถึง "ผู้ถือหุ้นตัวจริง"
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้ประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติในการตรวจสอบ ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่างใกล้ชิด โดยมีการตกลงแนวทางการเปิดเผยข้อมูลร่วมกันเพื่อความชัดเจนในการตรวจสอบ ซึ่งการขอข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ จะดำเนินการตามความจำเป็น และโฟกัสเฉพาะจุดที่มีข้อสงสัย
นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า แนวทางการตรวจสอบนั้น เป้าหมายหลักในขณะนี้คือการตรวจสอบในชั้นของ "ผู้ถือหุ้น" ว่ามีการรายงานข้อมูลการถือครองหลักทรัพย์ถูกต้องหรือไม่ โดยไม่ได้เป็นการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนโดยตรง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยประเด็นสำคัญคือการพิสูจน์ว่า ใครคือผู้ถือหุ้นตัวจริง หรือผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่แท้เจริง เพราะตามกฎหมายระบุไว้ชัดเจนให้ผู้ทำธุรกรรมหรือเจ้าของที่แท้จริงต้องรายงานการถือครองหุ้นตามที่กำหนดไว้
สำหรับบทลงโทษหากพบมีการรายงานข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือไม่ทำตามเกณฑ์ Tender Offer ก็จะต้องทำให้ถูกต้อง และอาจมีความผิดซึ่งมีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมายทีกำหนด ซึ่งปัจจุบันมีอำนาจในการกล่าวโทษ และส่งต่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย




ยอมรับการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ การใช้งานที่ดีที่สุด