
“สารัชถ์ รัตนาวะดี” แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน รวย 1.89 แสนล้านบาท
11 ธ.ค. 2568 00:00
“สารัชถ์ รัตนาวะดี” แห่งบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 รวย 1.89 แสนล้านบาท ครองแชมป์ 7 ปีซ้อน “นิติ โอสถานุเคราะห์” นักลงทุนรายใหญ่ทายาทโอสถสภา นั่งอันดับ 2 ถือพอร์ตหุ้นรวมมูลค่า 4.73 หมื่นล้านบาท “หมอเสริฐ” นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ - บางกอกแอร์เวย์ส เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 รวย 3.31 หมื่นล้านบาท
วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ 32 แล้ว โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นในสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์maiตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2568 ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ยังคงเป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ซึ่งเป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว
โดยสารัชถ์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวมทั้งสิ้น189,992.47 ล้านบาท ลดลง 50,349.43 ล้านบาท หรือ 20.95% ประกอบด้วย หุ้น GULF ในสัดส่วน 29.19% สูงเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 189,684.32 ล้านบาท และ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นบริษัทลูกของไทยยูเนี่ยน 0.65% มูลค่า 308.15 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ยังคงอันดับเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 47,313.08 ล้านบาท ลดลง 12,159.34 ล้านบาท หรือ 20.45%
สำหรับหุ้นในพอร์ตการลงทุนของนิติยังคงอยู่ใน 10 บริษัทเช่นเดียวกับปีที่แล้ว ได้แก่ บมจ.โอสถสภา (OSP) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บมจ.บีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) บมจ.อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) (IRC) และ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA)
เศรษฐีหุ้นอันดับ3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยยังคงครองอันดับ 3 ไว้ได้อีกปี ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 33,062.33 ล้านบาท ลดลง 17,602.89 ล้านบาท หรือ 34.74% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 9.18% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 11.38%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 และ เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ สองเจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ปีนี้ยังคงอันดับเดิม โดย ดาวนภา เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 4 ถือหุ้น MTC 33.96% มูลค่า 29,160 ล้านบาท ลดลง 6,480 ล้านบาท หรือ 18.18% ส่วน ชูชาติ เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 5 รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 28,878.71 ล้านบาท ลดลง 6,561.89 ล้านบาท หรือ 18.52% โดยถือหุ้น MTC 33.49% และ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) 2.32%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ โดยยังคงอยู่ในอันดับเดิมเหมือนปีที่แล้ว ถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 5.81% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) BA 6.49% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 20,732.61 ล้านบาท ลดลง 10,210.61 ล้านบาท หรือ 33%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ได้แก่ ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานคณะกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย ปีนี้ขยับขึ้นมาติดทำเนียบ Top 10 เศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยขยับขึ้นจากอันดับ 11 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 18,088.53 ล้านบาท ลดลง 134.67 ล้านบาท ถือเป็นเศรษฐีหุ้นที่มูลค่าความมั่งคั่งลดลงน้อยที่สุดเพียง 0.74% เมื่อเปรียบเทียบกับ Top 10 เศรษฐีหุ้นไทยด้วยกัน
สำหรับหุ้นที่ประทีบถือครองมีทั้งหมด 11 บริษัทเช่นเดียวกับปีที่แล้ว แต่ปีนี้มีสัดส่วนการถือครองเพิ่มขึ้นทุกบริษัท ประกอบด้วยหุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) 34.53% บมจ.บางกอกแร้นช์ (BR) 12.69% บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PDJ) 12.95% บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) 4.23% บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) 3.16% บมจ.บ้านปู (BANPU) 2.34% บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) 2.04% บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) 1.97% บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) 1.95% บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) 1.47% และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 0.78%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เจ้าของเครือธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที กลับเข้าสู่ทำเนียบ TOP 10 เศรษฐีหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากเข้ามาเป็นปีแรกเมื่อปี 2566 โดยขยับขึ้นจากอันดับ 13 เมื่อปีที่แล้ว ถือหุ้นรวมมูลค่า 17,208.38 ล้านบาท ลดลง 310.97 ล้านบาท หรือ 1.78%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี หรือ หมอพงศ์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งคลินิกเสริมความงาม “พงศ์ศักดิ์คลีนิค” นักลงทุนรายใหญ่ที่ปีนี้มีพอร์ตการลงทุนมูลค่ารวม 15,404.11 ล้านบาท ลดลง 1,796.82 ล้านบาท หรือ10.45%
ปี 2568 นี้ ตระกูลรัตนาวะดี ของ สารัชถ์ รัตนาวะดี ยังคง ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยมีความมั่งคั่งรวม 189,992.47 ล้านบาท ลดลง 50,349.43 ล้านบาท หรือ 20.95% อันดับ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยเครือญาติรวม 48 คน ถือครองหุ้นรวมกันมูลค่า 70,933.48 ล้านบาท ลดลง 20,614.23 ล้านบาท หรือ 22.52%
อันดับ 3 ตระกูลปราสาททองโอสถ โดย 6 เครือญาติถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่า 65,049.21 ล้านบาท ลดลง 37,630.57 ล้านบาท หรือ 36.65% อันดับ 4 ตระกูลโอสถานุเคราะห์ โดย 14 เครือญาติถือครองหุ้นรวมมูลค่า 60,231.20 ล้านบาท ลดลง 15,411.74 ล้านบาท หรือ 20.37%และ อันดับ 5 ตระกูลเพ็ชรอำไพ โดยเจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ดาวนภา-ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 58,038.71 ล้านบาท ลดลง 13,041.89 ล้านบาท หรือ 18.35%




ยอมรับการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ การใช้งานที่ดีที่สุด