
ไทยยูเนี่ยน ได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ CDP ระดับ A-
15 ธ.ค. 2568 00:00
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ CDP ประจำปี 2025 ในระดับ A- ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leadership) สะท้อนมาตรฐานด้านความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านการกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายที่ท้าทาย ความก้าวหน้าที่เห็นผลเป็นรูปธรรม และการดำเนินงานที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม
โดย CDP เป็นองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำหน้าที่ประเมินบริษัทมากกว่า 22,000 แห่งทั่วโลกจากข้อมูลที่รายงานผ่านแบบสอบถามด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่า และความมั่นคงของน้ำ
ผลการประเมินที่ขยับขึ้นจากระดับ B ในปีก่อนหน้า สะท้อนความพยายามของไทยยูเนี่ยนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการดำเนินงาน การสร้างห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเลที่มีความรับผิดชอบ และการปกป้องรักษาระบบนิเวศทางทะเล ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ซึ่งขับเคลื่อนผ่านการจัดสรรงบประมาณเฉพาะด้าน และการเดินหน้าพันธกิจต่างๆ ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การส่งเสริมการทำเกษตรกรรมที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า การปรับปรุงการดำเนินงานภายในโรงงานเพื่อลดการปล่อยน้ำเสียให้เป็นศูนย์ ลดของเสียฝังกลบเป็นศูนย์ และลดการสูญเสียอาหารเป็นศูนย์ ในโรงงานหลักห้าแห่งทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งช่วยสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับทั้งผู้คน โลก และสัตว์เลี้ยง

นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า CDP เป็นดัชนีชี้วัดความยั่งยืนที่สำคัญซึ่งสะท้อนระดับการเปิดเผยข้อมูลและความสามารถขององค์กรในการเปลี่ยนคำมั่นสัญญาสู่การดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศที่เป็นรูปธรรม ซึ่งกลยุทธ์ SeaChange® 2030 ของไทยยูเนี่ยนนั้นขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าในด้านการดำเนินงาน การจัดสรรเงินทุน และความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน นับตั้งแต่การผลิตอาหารทะเลคาร์บอนต่ำ ไปจนถึงการยกระดับความโปร่งใสในกระบวนการผลิตและส่งมอบอาหารทะเลสู่ผู้บริโภค
ตลอดปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าตามพันธสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศ ซึ่งรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเดินหน้าบริหารจัดการผลกระทบในขอบเขตที่ 3 ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการกุ้งคาร์บอนต่ำ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนเป้าหมายการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและการปกป้องระบบนิเวศ โดยมีโรงงานจำนวนเพิ่มขึ้นเดินหน้าสู่เป้าหมายของเสียฝังกลบเป็นศูนย์ รวมทั้งการเดินหน้าสู่เป้าหมายน้ำเสียเป็นศูนย์และการสูญเสียอาหารเป็นศูนย์ในโรงงานหลักของไทยยูเนี่ยน และการมุ่งยกระดับห่วงโซ่อุปทานให้ปลอดจากกิจกรรมที่นำไปสู่การตัดไม้ทำลายป่า
ท่ามกลางผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งสร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อนมาตรการด้านความยั่งยืนที่วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมตลอดทั่วทั้งอุตสาหกรรม
“ผลการประเมินจาก CDP ในครั้งนี้ สะท้อนความก้าวหน้าของไทยยูเนี่ยน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 ซึ่งเป็นกรอบการทำงานเพื่อมุ่งสู่อนาคต หน้าที่ของเราคือการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของระบบนิเวศท้องทะเล สนับสนุนการผลิตอาหารทะเลคาร์บอนต่ำ และมุ่งยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมโดยรวม” นายอดัม กล่าว




ยอมรับการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ การใช้งานที่ดีที่สุด