MENU

อุทาหรณ์..รักปลอม ๆ ในโลกออนไลน์ “ไซมอน เลอไวฟ์” นักต้มตุ๋นหลอกสาวในแอปฯ Tinder

 14 ก.พ. 2565 00:00

เปิดเรื่องราวรักปลอม ๆ ในโลกออนไลน์ของ “ไซมอน เลอไวฟ์” หนุ่มหล่อโปรไฟล์หรูในแอปฯ หาคู่Tinder ที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นแค่นักต้มตุ๋น18 มงกุฎ หลอกผู้หญิงหลายคนให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ คิดว่าได้พบกับเจ้าชาย แต่สุดท้ายฝันสลายแหลกยับ เสียทั้งใจ เสียทั้งเงินนับสิบล้าน


“ไซมอน เลอไวฟ์” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายอิสราเอล วัย 20 กว่า ๆ เขาปรากฎตัวในแอปพลิเคชันหาคู่ที่ชื่อว่า “ทินเดอร์” (Tinder) ด้วยโปรไฟล์สุดหรู ทั้งหน้าที่การงานซึ่งเป็นนักธุรกิจพ่อค้าเพชรระดับลูกอภิมหาเศรษฐี เขาอ้างว่า เขาคือลูกชายของ “เลฟ เลอไวฟ์” นักธุรกิจค้าเพชรชาวอิสราเอลที่หลายคนรู้จักในนาม “ราชาแห่งเพชร” และเป็นซีอีโอบริษัทLLD Diamonds ด้วยเหตุนี้ ไซมอนจึงสถาปนาตัวเองว่าเป็น “เจ้าชายแห่งเพชร”

ไซมอน มีกลเม็ดสำคัญในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถืออีกอย่างหนึ่งก็คือ ไลฟ์สไตล์ที่เขาอัปโชว์ในแอปฯTinder ในแต่ละวัน เขาจะโพสต์ชีวิตตัวเอง ทั้งภาพการประชุมงาน การเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศนั้นประเทศนี้ด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว มีรถโรลส์รอยคันหรูคอยรับคอยส่ง กินก็หรู เที่ยวก็หรู อยู่ก็หรู เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาแพง ซึ่งทั้งหมดนั้นช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ว่าเขาเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งร่ำรวย

เรื่องราวของไซมอน ถูกนำมาถ่ายทอดในหนังสารคดีที่ฉายบนเน็ตฟลิกซ์ เรื่อง The Tinder Swindler (สิบแปดมงกุฎทินเดอร์) โดยนำเสนอผ่านการสัมภาษณ์หญิงสาว 3 คนซึ่งเคยมีสัมพันธ์กับไซมอน ก่อนจะพบว่าตนเองถูกหลอกเข้าจังเบอร์

โดยลักษณะคล้าย ๆ กัน หญิงสาวเหล่านี้ล้วนเริ่มต้นทำความรู้จักและคบหากับไซมอน ผ่านทางแอปฯ ทินเดอร์ ซึ่งเริ่มจากถูกตาต้องใจในรูปลักษณ์หน้าตา - หน้าที่การงาน และไลฟ์สไตล์ ของไซมอน ก่อนจะนัดเจอกัน ซึ่งไซมอนเอง ก็มีวิธีที่จะทำให้ผู้หญิงประทับใจตั้งแต่เดทแรก และสานสัมพันธ์ที่ดีต่อเนื่องไปในระยะหนึ่ง ให้พวกเธอตายใจและเชื่อมั่นในตัวเขา เหมือนว่าเขานี่แหละคือคนที่พวกเธอกำลังตามหามาทั้งชีวิต


แต่ปีศาจก็มักจะมีวิธีที่ทำให้เราตกหลุมรัก เช่นเดียวกับมีวิธีที่จะเอาไปจากเรา นี่คือทักษะระดับมือพระกาฬ บวกกับการทำงานเป็นทีม สำหรับไซมอนก็ไม่ต่างไปจากนั้น เพราะหลังจากคบหากันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เมื่อภาพลักษณ์ของชายหนุ่มผู้โรแมนติกและแสนดีดั่งเจ้าชายในเทพนิยาย ถูกฝังลงไปในความคิดของหญิงสาว “เรื่องแต่ง” ของเขาก็จะเริ่มทำงาน คือพอเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ เขาก็จะเริ่มแต่งเรื่องทำนองว่า ธุรกิจของเขาและทีมงานกำลังถูกคุกคามจากศัตรูคู่แข่งทางธุรกิจ ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย และที่สำคัญคือบัตรเครดิตของเขาที่ใช้ประจำ ต้องงดใช้งานชั่วคราวเพื่อไม่ให้ศัตรูสะกดรอยได้ ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต้องให้หญิงสาวที่เขากำลังคบหา ช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้

“เซซิลี” หญิงสาวชาวนอร์เวย์ เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยตกเข้าไปในหลุมพรางที่ไซมอนวางไว้ เธอเล่าว่า ตอนแรกนั้น เธอเองก็เชื่อเรื่องที่ไซมอนเล่า และเมื่อเห็นคนที่ตนรัก ต้องลำบาก ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือ และเชื่อในสัญญาจากปากไซมอนว่าจะให้คืน เรียกว่าไซมอนขอมาเท่าไหร่ เธอก็ให้ไปเท่านั้น เงินไม่พอก็กู้เพิ่ม ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเป็นหนี้ธนาคารกว่าสิบราย รวม ๆ แล้ว ที่ให้ไซมอนไป เป็นเงินสูงถึง8.8 ล้านบาท และสุดท้ายก็รู้ว่า ไซมอนไม่สามารถหามาจ่ายคืนได้


ในที่สุด เมื่อ “เซซิลี” ใช้หนี้ไม่ไหวและโดนแบงก์ไล่บี้ เธอก็เปิดใจเล่าความจริงทุกอย่างให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารฟัง และนาทีนั้นเอง เธอจึงได้รู้ว่า เธอถูกหลอกเข้าอย่างจัง เมื่อเจ้าหน้าที่แบงก์ได้เห็นภาพของไซมอนแล้วพูดออกมาว่า อ๋อ คน ๆ นี้เองเหรอ? ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไซมอน และเดินหน้าเปิดโปงผู้ชายลวงโลกคนนี้ แม้ว่าลึก ๆ จะนึกกลัวคำขู่สารพัดของไซมอนก็ตามที

จากประวัติในทะเบียนทางการของอิสราเอล ระบุว่า “ไซมอน เลอไวฟ์” มีชื่อเดิมว่า “ชิมอน ฮายุต” เขามีนิสัยฉ้อโกงมาตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี เคยขโมยเงินของครอบครัวที่ร่ำรวยครอบครัวหนึ่งซึ่งเขาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้ แล้วนำเงินที่ขโมยมาได้นั้นไปฝึกขับเครื่องบินและซื้อรถปอร์เช่ แต่ถึงจะไปฝึกบิน เขาก็ไม่เคยจบคอร์สการบินใด ๆ ซ้ำยังสร้างภาพหลอกคนอื่นอยู่เสมอว่าตนเองเป็นนักบิน

หลังจากหลบหนีคดีมาจากอิสราเอล “ชิมอน ฮายุต” ก็เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น “ไซมอน เลอไวฟ์” และใช้แอปฯ ทินเดอร์ กับภาพลักษณ์สุดหรูในการหาเหยื่อ คนแล้วคนเล่า โดยเฉพาะผู้หญิง ... รู้กันว่า เงินที่เขาใช้ทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งทำให้เขาสามารถกินหรูอยู่สบาย ล้วนเป็นเงินของผู้หญิงที่เขาหลอกในทินเดอร์ทั้งสิ้น โดยวิธีการก็คือ เขาเอาเงินจากผู้หญิงคนหนึ่ง ไปใช้ชีวิตหรูหรากับผู้หญิงอีกคน (โดยอ้างว่า ต้องเอาไปใช้ในช่วงที่ถูกคุกคามจากศัตรูทางธุรกิจ)


ไซมอนเริ่มหลบหนีออกนอกประเทศไปยังทวีปยุโรปตั้งแต่ปี 2011 และก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำอีก ตำรวจในหลายประเทศต้องการตัวเขา เช่น อังกฤษ, เยอรมนี, เดนมาร์ก, สวีเดน และนอร์เวย์ ฯ แต่ในช่วงเวลากว่าสิบปี ก็ไม่มีใครจับเขาได้ แถมก่อคดีมากมาย ทำให้ผู้หญิงชอกช้ำระกำใจและร้องไห้แทบเป็นบ้ามาแล้วหลายคน เพราะต้องแบกรับภาระหนี้สินซึ่งเกิดขึ้นจากเขา

ในปี ค.ศ.2019 หลังจากเรื่องราวฉาวโฉ่ของเขาถูกเปิดโปงโดยกลุ่มหญิงสาวที่เคยเป็นเหยื่อ ไซมอนถูกจับกุมตัว และถูกศาลอิสราเอลสั่งจำคุก 15 เดือน แต่ด้วยการประพฤติตัวดีขณะอยู่ในคุก บวกกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสที่ทำให้ทางการอยากจะลดจำนวนผู้ต้องขัง เพื่อป้องกันคลัสเตอร์ผู้ป่วยในเรือนจำ ไซมอนจึงถูกปล่อยตัวออกมา หลังจากติดคุกแค่ 5 เดือน


เมื่อพ้นคุก ไซมอนเริ่มทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกับเปิดเว็บไซต์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจ (ปัจจุบันเว็บไซต์ดังกล่าวปิดไปแล้ว) เขากลับมาเล่นแอปฯ ทินเดอร์อีกครั้ง (แต่สุดท้ายก็ถูกระงับใช้บัญชี) พร้อมทั้งสานสัมพันธ์กับนางแบบสาวคนหนึ่งในฐานะแฟน ก่อนจะลงเอยด้วยการเป็นแค่เพื่อนกัน

เลฟ เลอไวฟ์ นักธุรกิจค้าเพชรตัวจริงเสียงจริง ได้เข้าแจ้งความฟ้องร้องไซมอน โทษฐานที่แอบอ้างว่าเป็นลูกชายของเขา ทำให้เขาและบริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะไซมอนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลยกับตระกูลเลอไวฟ์


อย่างไรก็ดี ในขณะที่ไซมอนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้แบบไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร แต่ผู้หญิงที่เขาเคยคบหา อย่างน้อย 3 คนที่ปรากฏในสารคดีเรื่อง The Tinder Swindler ต้องรับภาระใช้หนี้สินมาจนปัจจุบัน พวกเธอทั้งสามคือตัวละครสำคัญที่ช่วยกันกระชากหน้ากากนักต้มตุ๋นรายนี้ให้เป็นที่ปรากฎไปทั่วโลก และด้วยภาระหนี้สินล้นพ้น พวกเธอได้สร้างแคมเปญ “Go Fund Me” หาคนใจดีมาบริจาค ซึ่งตอนนี้ก็มีคนเห็นใจบริจาคไปแล้วกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่ยอดรวมสูงสุดนั้นอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท กว่าจะปลดหนี้ได้ทั้งหมด

ต้องยอมรับว่า เรื่องราวของไซมอน เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เจอคนดีก็ดีไป แต่ที่มันน่าเจ็บปวดหัวใจสุด ๆ ก็คือ คนดี ๆ ที่เราเห็น บางคนไม่ได้เป็นเช่นที่คิด เช่นเดียวกับ “เจ้าชายแห่งโลกออนไลน์” อย่างไซมอน ที่ “ไอลีน ชาร์ลอตต์” เหยื่อสาวรายหนึ่งพูดถึงเขาในช่วงท้าย ๆ ของสารคดี The Tinder Swindler ด้วยการใช้คำว่า “ไอ้เศษสวะ”!!