MENU

แด๊ดดี้สุดเท่! เพโดร ปาสคาล

 10 มี.ค. 2566 00:00

เพโดร ปาสคาล นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายชิลี ที่อยู่คู่วงการฮอลลีวูดมานานกว่า 20 ปี หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจากการเล่นหนัง และซีรีส์ดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Game of Thrones ในบท Oberyn Martell ที่แม้จะปรากฏตัวมาเพียงซีซั่นเดียว แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ และกลายเป็นบทแจ้งเกิดของเขาเลยก็ว่าได้ ใน The Great Wall ที่แสดงประกบแมตต์ เดมอน ก็มีฉากแอ็คชั่นเท่ๆ แย่งซีนพระเอกเหมือนกัน หรือใน Kingsman: The Golden Circle ที่เขารับบทเป็นสายลับสไตล์คาวบอยอเมริกันอย่าง Whiskey ก็ถือเป็นวายร้ายที่โคตรเท่ และโคตรเก่ง แถมยังมีเหตุผลที่เราเข้าใจได้อีกด้วย


ซึ่งไม่ว่า เพโดร ปาสคาล จะรับบทเป็นอะไรก็ดูเท่ก็ดูดีไปซะหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบทที่ได้กลายเป็นภาพจำของนักแสดงคนนี้ไปแล้ว ก็คือบท “คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว” โดยเฉพาะในช่วงหลัง ๆ มานี้เหมือนเหล่าผู้สร้างจะชอบมอบบทแบบนี้เขาให้ได้แสดงเสมอ แล้ววันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก 5 บทบาทคุณพ่อสุดเท่ ที่เป็นผลงานการแสดงของ เพโดร ปาสคาล



1. The Mandalorian (2019 -2023)


ซีรีส์เรื่องแรกของจักรวาล Star Wars ที่ถูกใจทั้งแฟนหน้าเก่าและหน้าใหม่ ด้วยเรื่องราวการผจญภัยของสองพ่อลูกต่างเผาพันธุ์ ที่สนุกครบรส ทั้งดราม่า และแอ็คชั่น บวกกับเนื้อเรื่องที่มีความสดใหม่ พาเราไปสำรวจสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาล Star Wars ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ โดย เพโดร ปาสคาล รับบทเป็นชาวแมนดาลอเรียน นาม ดิน จาริน นักล่าค่าหัวหนุ่มที่มีอดีตอันโหดร้าย พ่อแม่ถูกหุ่นดรอยสังหารต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น จนกระทั่งเขาได้รับงานล่าค่าหัวจากพวกจักรวรรดิ และเป้าหมายนั่นคือโกรกู ทารกน้อยเผาพันธุ์เดียวกับอาจารย์โยดาที่มีพลังจิตอันกล้าแกร่ง


ด้วยความที่มีปมฝังใจวัยเด็ก ทำให้ดินเกิดความเอ็นดูโกรกูขึ้นมา เขาจึงตัดสินใจหักหลังนายจ้างเพื่อปกป้องเด็กคนนี้ด้วยชีวิต นั่นทำให้เขาต้องถูกตามล่าจากทั้งฝ่ายจักรวรรดิ และนักล่าค่าหัวด้วยกันเอง ดิน จาริน จึงต้องออกผจญภัยร่วมกับโกรกู จนเกิดเป็นความผูกพันดั่งพ่อลูกกันจริง ๆ


ตลอดเวลากว่า 3 ซีซั่น แม้ เพโดร ปาสคาล จะไม่ได้เป็นคนสวมชุดแมนดาลอเรียน หรือเข้าฉากแสดงเองตลอดทุกตอน แต่เขาเปรียบเหมือนผู้ที่มอบจิตวิญญาณให้กับตัวละครตัวนี้ ผ่านน้ำเสียง และภาษาพูด ที่ทำให้ตัวละครที่เราแทบไม่เห็นหน้ามีหัวใจขึ้นมาได้ และทุก ๆ ครั้งที่ตัวละครตัวนี้ถอดหน้ากาก มันจึงมีความอิมแพ็คต่อคนดูมาก ๆ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีหนังหรือซีรีส์เรื่องไหนทำได้ใกล้เคียงกับ The Mandalorian เลย

2. Prospect (2018)


หนังไซไฟทุนต่ำ แต่เต็มไปด้วยดราม่า แอ็คชั่น และการแสดงอันยอดเยี่ยม เรื่องราวของซีและพ่อของเธอที่เป็นนักล่าอัญมณี ต้องมาทำงานที่ได้รับมอบหมายบนดาวแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างทางเธอและพ่อได้พบกับ 2 นักล่าอัญมณี ที่หนึ่งในนั้นคือเอซรา (แสดงโดย เพโดร ปาสคาล) แต่ด้วยความโลภ พ่อของซีจึงปล้นอัญมณีของเอซราไป ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้น พ่อของซีและนักล่าอัญมณีอีกคนเสียชีวิต แต่ซีกลับหนีไปได้ เอซราจึงตามเธอไปก่อนจะถูกเธอยิงบาดเจ็บ แต่ยานของซีดันเสียหายหนัก และไม่สามารถออกจากดาวดวงนี้ได้ ซีและเอซราจึงต้องร่วมมือกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อเอาชีวิตรอดบนดาวแห่งนี้


จากที่ไม่ไว้ใจกัน แต่เมื่อทั้งคู่ได้พูดคุยเปิดใจและได้ผจญภัยร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ต่างคนก็ต่างช่วยชีวิตของอีกคนเอาไว้จนในที่สุดก็เกิดเป็นความผูกพันขึ้นมา ซีที่สูญเสียพ่อไปก็ได้เอซราที่คอยทำหน้าที่ปกป้องเธอ ส่วนเอซราที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อของซีตายก็ได้ชำระบาปเช่นกัน จนท้ายที่สุดทั้งคู่สามารถเอาชีวิตรอดจากดาวดวงนี้ไปได้ แม้จะเป็นหนังทุนต่ำ แต่บทเอซราที่เพโดร ปาสคาลได้รับ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบทที่น่าจดจำ และเป็นเส้นทางสำคัญที่จะพาเขาไปรับบทสไตล์นี้อีกหลายเรื่อง


3. Wonder Woman 1984 (2020)


หนังภาคต่อของฮีโร่สาว DC ที่ครั้งนี้เธอต้องต่อกร แมกซ์เวลล์ ลอร์ด นักธุรกิจลวงโลกที่หลอกนักลงทุนมามากมายจนตัวเขานั้นกำลังจะล้มละลาย แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูกชาย และความต้องการให้ลูกภูมิใจในตัวเขา เขาจึงออกตามหาของโบราณชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่าหินแห่งคำอธิฐาน และมันจะสามารถทำให้เขาขอพรอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเมื่อแมกซ์เวลล์ใช้พลังในทางที่ผิด ทั้งยึดทรัพท์คนอื่น ทั้งยุยงให้เกิดความแตกแยก ไปจนถึงการเข้าพบประธานาธิบดี จนอาจเกิดเป็นสงคราวนิวเคลีย


ความลุ่มหลงในอำนาจที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้สุขภาพของเขาย่ำแย่จากการใช้พลังของหินมากจนเกินไป แมกซ์เวลล์จึงทะเยอทะยานขั้นสุด ถ่ายทอดสดตัวเองเพื่อให้คนทั่วโลกขอพรแลกกับพลังชีวิต ความวุ่นวายจึงได้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่คนที่ไม่มีความสุขเลยกลับเป็นลูกชายของเขา ที่กำลังหลงทางและต้องการพ่อคนเดิมกลับมา แมกซ์เวลล์ จึงตาสว่างและกลับไปหาลูกชายของเขานั่นเอง


การพ่ายแพ้ของวายร้ายอย่าง แมกซ์เวลล์ ลอร์ด ไม่ใช่การใช้กำลังเข้าต่อสู้ แต่กลับเป็นความห่วงใยและความผูกพันธ์ของ 2 พ่อลูก ที่เปลี่ยนให้คนๆนึงที่ทำสิ่งชั่วร้ายกลับกลายมาเป็นคนดีได้อีกครั้ง การแสดงของ เพโดร ปาสคาล ได้ทำให้วายร้ายตัวนี้มีเสน่ห์น่าจดจำ มีมิติ และเหตุผลที่เราเข้าใจได้ แม้จะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่น แต่ทุกๆครั้งที่เขาขึ้นจอ หนังก็มีสีสันและความสนุกขึ้นมามาก และแม้สิ่งที่เขาทำมันจะเลวร้ายมากเพียงใด แต่หัวใจที่รักลูกของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เราคนดูที่ดูจนจบก็ทำใจเกลียดตัวละครนี้ไม่ลง


4. We Can Be Heroes (2020)


หนังฮีโร่เด็กของผู้กำกับ Robert Rodriguez ที่นำสไตล์สีสันความสดใส และเนื้อเรื่องที่มีความอบอุ่นหัวใจเหมือนกับ Spy Kids มาเล่าในธีมฮีโร่ ที่คราวนี้เพโดร ปาสคาล มารับบทเป็น มาร์คัส โมเรโน หัวทีมฮีโร่อันดับ 1 ของโลก ที่เขาได้เกษียณตัวเองหลังจากมีลูกสาว และภรรยาของเขาเสียชีวิต แต่เมื่อเหล่าเอเลี่ยนมาบุกโลก ทำให้มาร์คัสต้องกลับมาเป็นฮีโร่อีกครั้ง เพื่อปกป้องลูกสาว และโลกใบนี้เอาไว้


แต่เหล่าเอเลี่ยนกลับสามารถเอาชนะฮีโร่ทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย และจับตัวฮีโร่ผู้ใหญ่ไปจนหมด จึงเป็นหน้าที่ของฮีโร่รุ่นลูก ที่ต้องรวมพลังกันเอาชนะเหล่าเอเลี่ยน และช่วยเหลือพ่อแม่ของพวกเขาให้ได้ แม้ เพโดร ปาสคาล จะไม่ได้มีบทเยอะ หรือเก่งกาจอะไรมากมายในหนังเรื่องนี้ แต่ทุกๆครั้งที่เขาปรากฏตัวออกมา เราก็สัมพัสได้ถึงความอบอุ่นและความห่วงใยที่เขามีต่อลูกสาว ทั้งๆที่เป็นหนังเด็กแต่ตัว เพโดร ก็ยังเท่เหมือนเคย


5. The Last of Us (2023)


ผลงานล่าสุดของ เพโดร ปาสคาล ที่มาในรูปแบบซีเรียสจริงจังกว่าทุกเรื่อง The Last of Us เป็นการดัดแปลงจากเกมชื่อดังในชื่อเดียวกันเรื่องราวของ โจล มิลเลอร์ ชายวันกลางคนที่มีอดีตอันน่าเศร้า อย่างการเสียลูกสาวไประหว่างที่เชื้อซอมบี้แพร่ระบาด แต่ 20 ปีต่อมาโจลได้พบกับเอลลี เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวที่เขาเสียไป และทั้งคู่ต้องออกผจญภัยร่วมกัน จนเกิดความพูกพันธุ์กันในที่สุด


แม้มองเผิน ๆ เรื่องราวอาจคล้าย the mandalorian แถมยังฉายไล่เลี่ยกันอีก แต่ The last of us จะมีโทนที่แตกต่างกันสุดขั้ว มีความจริงจัง ดราม่าเข้ม ๆ จนบางตอนแทบไม่มีซอมบี้เลยสักตัว เพโดร ปาสคาล ในบท โจล มิลเลอร์ สามารถถ่ายถอดอารมณ์ และความรู้สึกของตัวละครได้เหนื่อกว่าที่วิดีโอเกมทำเอาไว้ ด้วยบุคลิกเย็นชาเพราะต้องเก็บซ้อนความเจ็บปวดที่สูญเสียลูกสาวตลอด 20 ปี เป็นคนที่ผ่านโลกมามากมาย มีประสบการณ์ และทักษะในการเอาชีวิตรอด แต่เมื่อโจลได้พบเอลลี เขาก็เผิญด้านที่อ่อนโยนออกมา มีมุมตลก และมุมที่มีความอบอุ่น เปรียบเสมื่อนพ่อที่พบลูกสาวอีกครั้ง


การเดินทางทั่วอเมริกาของโจลและเอลลี ได้เกิดความสัมพันธ์ที่ทั้ง 2 ไม่อาจขาดใครคนใดคนหนึ่งได้ จากเดิมทีที่โจลต้องทำหน้าที่ไปส่งเอลลีเท่านั้น แต่เมื่อถึงที่หมายเขากลับลังเล และตัดสินใจในสิ่งที่คาดไม่ถึง เพื่อไม่ให้เขาต้องสูญเสียลูกสาวอีกคนไปนั่นเอง การแสดงอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า เพโดร ปาสคาล จะต้องถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลการแสดงอย่างแน่นอน


อนาคตการแสดงของ เพโดร ปาสคาล ยังคงอีกยาวไกล มีบทบาทมากมายที่เขาสามารถแสดงได้ แต่บทสไตล์ “พ่อเลี้ยงเดี่ยวสุดเท่” จะยังคงเป็นที่จดจำของแฟน ๆ และถูกนึกถึงเป็นอย่างแรก หากพูดชื่อ เพโดร ปาสคาล อย่างแน่นอน

........................................................

ผู้เขียน : นันทิภาคย์ กิตติคุณปกรณ์