เคยจิตนาการถึงการเดินทางในโลกอนาคตบ้างไหม? ว่าจะรวดเร็วทันใจ สะดวกสบาย ปลอดภัย ไม่ต้องพบเจอรถติด หรือคนเบียดกันจนไม่มีที่ยืนบนรถไฟฟ้า และในวันนี้ สิ่งที่เราจินตนาการไว้ ก็เริ่มเป็นจริง เมื่อในวันที่ 16 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัว Xturismo มอเตอร์ไซค์บินได้ตัวแรกของโลก หรือที่เราเรียกเท่ ๆ ว่า “โฮเวอร์ไบค์” (Hoverbike)

Xturismo ได้มีการเปิดตัวในงาน Detroit motor show ที่จัดขึ้นในวันที่ 14-25 กันยายน 2565 ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม ที่มีเทคโนโลยีล้ำยุคมากมาย จึงไม่แปลกใจ ที่ภายในงานนี้จะมีการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์บินได้ตัวแรกของโลก ที่ผลิตโดยบริษัทสตาร์ทอัพจากญี่ปุ่นนามว่า AERWINS

โดยเจ้า Xturismo ได้มีการบินโชว์ภายในงาน และสามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะมันสามารถบินได้นานถึง 40 นาที และทำความเร็วได้สูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้จะไม่ใช้ตัวเลขที่รวดเร็วนัก เมื่อเทียบกับรถโดยสารในปัจจุบัน แต่ด้วยความที่สามารถบินได้ และหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่อยู่บนพื้นดินได้ แถมยังปลอดภัยต่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็เหมาะมาก ๆ หากใช้เดินทางภายในเมือง

ด้วยตัวรถยาว 2.4 เมตร สูง 1.5 เมตร และหนักเพียง 300 กิโลกรัม แต่รับน้ำหนักผู้โดยสารได้ถึง 100 กิโลกรัม ทำให้มันมีขนาดเล็กกว่ารถเก๋งเล็กน้อย สามารถใช้จอดในพื้นที่จอดรถยนต์ทั่วไปได้ โดยเจ้า Xturismo ใช้เครื่องยนต์ Kawasaki ไฮบริด และขับเคลื่อนด้วยพลังงานน้ำมันเบนซิน ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สีได้แก่ แดง น้ำเงิน และดำ

โดยก่อนจะมาผลิตมอเตอร์ไซค์บินได้ AERWINS เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาโดรนมาก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้ว Xturismo ก็คือโดรน แต่เป็นโดรนขนาดใหญ่ที่มนุษย์สามารถขึ้นขี่ได้ และเปลี่ยนจากรีโมตควบคุมระยะไกล ให้กลายเป็นพวกมาลัยที่อยู่ตรงหน้าคนขับแทน

Xturismo ได้มีการเปิดขายแล้วในประเทศญี่ปุ่น และเตรียมวางขายในอเมริกาภายในปี 2023 ด้วยราคาสูงถึง 777,000 เหรียญ หรือเกือบ 30 ล้านบาท ซึ่งด้วยราคาระดับนี้ เราคงไม่ได้เห็นมันบินบ่อย ๆ อย่างแน่นอน และทาง AERWINS เอง ก็มองว่ากลุ่มลูกค้าหลักของพวกเขา คือเหล่าเศรษฐีที่ชื่นชอบประสบการณ์การเดินทางใหม่ ๆ ที่สะดวกรวดเร็ว และรัฐบาลที่อาจซื้อไปสำหรับการกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐาน ใช้ในการทหาร หรือใช้กับตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อยภายในเมือง

และแม้ราคาจะสูงมาก แต่ทาง AERWINS ก็เชื่อว่าในอนาคต ทุกคนจะสามารถจับต้องมันได้อย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทก็มุ่งมันจะผลิตโฮเวอร์ไบค์ในขนาดที่เล็กลงกว่านี้ ใช้ต้นทุนที่ต่ำลง และมีราคาไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์ให้ได้ ภายในปี 2025

แต่ถึงจะล้ำขนาดไหน ก็ยังมีเรื่องที่น่ากังวลอยู่ เช่นเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ สภาพอากาศ เสียงรบกวน และปัญหาด้านกฎหมายจราจร เนื่องจากประเทศญี่ปุ่น รถโฮเวอร์ไบค์ไม่ถือเป็นเครื่องบิน ดังนั้น เจ้าของรถจึงไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษในการบิน แต่ในอเมริกานั้นก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งทางบริษัท ก็มีหน้าที่เข้าไปดูแลเพื่อให้ลูกค้าสามารถบินได้อย่างถูกกฎหมาย

และเมื่อถึงวันนั้น ก็จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ ที่เราจะได้เห็นอนาคตของการเดินทางระยะสั้น ที่สะดวก และรวดเร็วกว่าเดิม อาจไม่มีแล้วกับปัญหารถติด และบนท้องฟ้าของเรา อาจเต็มไปด้วยรถยนต์ที่บินได้ เหมือนกับที่เราเคยเห็นในหนังไซไฟนั่นเอง